“สยามพิวรรธน์” ร่วมทุนไทย-เทศ ทุ่ม 7 หมื่นล้าน ปักหมุด “สร้างเมือง”

"ชฎาทิพ จูตระกูล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
หลังปั้น “ไอคอนสยาม” ติดลมบนสร้างชื่อทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ภารกิจ “สยามพิวรรธน์” ใน 5 ปีข้างหน้าจากนี้ คือ การเพี่อนำแบรนด์ไทยให้ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก

ที่ผ่านมา หลายโครงการของสยามพิวรรธน์ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกและได้รับรางวัลมากมายโดยเฉพาะในกลุ่มโครงการที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และใช้นวัตกรรมที่โดดเด่น ทั้งสยามพารากอน ไอคอนสยาม สยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามเซ็นเตอร์

ปลายปีนี้จะปรากฏอีก 1 โปรเจ็กต์ยักษ์ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เลท” อาณาจักรเอาต์เลต 150 ไร่ที่ร่วมทุนกับกรุ๊ปไซม่อน ยักษ์ใหญ่รีเทลจากอเมริกา

ในโอกาสครบรอบ 60 ปีสยามพิวรรธน์ “ชฎาทิพ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ได้ประกาศแผนการลงทุนและการเติบโตในช่วง 5 ปีจากนี้ เพื่อสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่องและยั่งยืนด้วยงบฯลงทุน 7 หมื่นล้านบาท กว่า 90% ของเงินลงทุนเป็นการสร้างเมือง สร้างโครงการขนาดใหญ่ ไม่ใช่แค่การสร้างศูนย์การค้าอีกต่อไป

“ทุกการตัดสินใจของสยามพิวรรธน์นับจากนี้ จะต้องอยู่ในบริบทระดับโลก มีเป้าหมายระดับโลก และเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกเสมอ เราสามารถที่จะขยายธุรกิจและการลงทุนไปกับใครก็ได้ ทั้งกลุ่มทุนในประเทศและต่างประเทศ และไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่เฉพาะการเป็นศูนย์การค้าหรือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์”

ดังนั้น โครงการของสยามพิวรรธน์จะต้องเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ดึงดูดคนทั้งจากในภูมิภาคและจากทั่วทุก
มุมโลกให้มา ต้องดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามา รวมถึงการที่สยามพิวรรธน์จะต้องออกไปสร้างโครงการใหม่ ๆ ในต่างประเทศโดยใช้ค้าปลีกรูปแบบไทย ๆ ความคิดและความเป็นไทยด้วยฝีมือของคนไทย เป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการในประเทศอื่น ๆ ด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงของการเจรจากับพาร์ตเนอร์ที่จะออกไปเติบโตนอกประเทศ ทั้งเวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา เป็นตลาดที่น่าสนใจ และสยามพิวรรธน์จะเข้าไปในรูปแบบของการทำงานกับพาร์ตเนอร์ที่แข็งแรงในแต่ละประเทศ

“ขณะที่ในประเทศยังมีโปรเจ็กต์ใหญ่ที่เรากำลังดีลอยู่ เป็นโครงการขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ ที่เป็นการทำร่วมกับพาร์ตเนอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างเมือง น่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือนตุลาคมกับที่ดินแปลงยักษ์นี้ ซึ่งจะเริ่มในกรุงเทพฯก่อน แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าเราไม่ทำดิวตี้ฟรี ไม่ต้องมาถามอีกแล้ว เราไม่ถนัด สยามพิวรรธน์ไม่ทำ” 

ในช่วงเวลา 60 ปี สยามพิวรรธน์ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากเดิมเคยเป็นบริษัทที่ต้องไปเรียนรู้ เสาะหาไอเดียและแรงบันดาลใจในการพัฒนาโครงการจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศไทย แต่วันนี้สยามพิวรรธน์
ได้ยกระดับมาสู่การเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย นำเสนอสิ่งแปลกใหม่ซึ่งทั่วโลกต้องการจะมาเรียนรู้ และนำเอาไอเดียของสยามพิวรรธน์ไปทำโครงการในประเทศของตัวเอง ไอคอนสยามคือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนมาก

ในอีก 5 ปีข้างหน้า ทิศทางการเติบโตของสยามพิวรรธน์ จะเดินหน้าสร้างโครงการระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ ต่อยอดจากความสำเร็จของวันสยาม (สยามพารากอน-สยามเซ็นเตอร์-สยามดิสคัฟเวอรี่) และไอคอนสยาม ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลกเพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ 

เช่นเดียวกับการประกาศลงทุนร่วมกับไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลกจากอเมริกา มีกำหนดการที่จะเปิด luxury premium outlets แห่งแรกในกรุงเทพฯในปลายปีนี้ และขยายเพิ่มไปต่างจังหวัด อีก 2 แห่ง

การลงทุนธุรกิจใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก เช่น การซื้ออาคารสำนักงาน กิจการจัดส่งสินค้า (logistics) รวมไปถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ การลงทุนวางระบบสารสนเทศทางการตลาด (marketing intelligence system) ที่ได้พัฒนามานานกว่า 5 ปี ด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท และพร้อมใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้วในปีนี้เพื่อต่อยอดและพัฒนาบิ๊กดาต้าจากฐานข้อมูลของ 4 ศูนย์การค้า

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน OneSiam คือ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ให้แข็งแกร่งและครองใจลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

ควบคู่กับโครงการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามแผนเติบโตเท่าตัวภายใน 5 ปีจากนี้

คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่.. นักลงทุนใน-นอก รุมจีบ “สยามพิวรรธน์” ร่วมทุน ผุดเอาต์เลตแรกใกล้สุวรรณภูมิ

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!