เป็นประจำทุกปีที่ “ประชาชาติธุรกิจ” จะรวบรวมตัวแทนภาครัฐ ผู้บริหารภาคธุรกิจในเซ็กเตอร์ต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ ร่วมระดมความเห็นบนเวทีสัมมนา มองอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยในปีถัดไป อะไรคือปัจจัยลบ อะไรคือปัจจัยบวก มีสิ่งใดที่เป็นปัจจัยแทรกซ้อน และควรระมัดระวัง เพื่อประโยชน์ในการกำหนดทิศทางธุรกิจในอนาคต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจับอุณหภูมิเศรษฐกิจขณะนี้จะพบว่า เศรษฐกิจโลกโดยรวมมีความอ่อนไหวและเปราะบาง ทั้งจากประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน, ผลกระทบจาก Brexit, บรรยากาศการเมืองระหว่างประเทศในหลาย ๆ จุดที่อึมครึมมากขึ้น
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
ภายใต้เศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออก ในขณะที่ไทยเองพึ่งพาตลาดต่างประเทศค่อนข้างมาก ส่งผลโดยตรงถึงการค้า-การลงทุน-การท่องเที่ยว เสมือนอยู่ท่ามกลางพายุที่กระหน่ำไม่หยุด สั่นสะเทือนธุรกิจในประเทศไทย
แน่นอนว่าปี 2020 ที่กำลังก้าวเข้ามา นับเป็นความท้าทายอีกครั้งหนึ่งของเศรษฐกิจไทย
เป็นที่มาของหัวข้อการจัดงานสัมมนา THAILAND 2020 # ก้าวข้ามพายุเศรษฐกิจ ในวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00-12.15 น. จัดขึ้นที่แกรนด์ฮอลล์ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต) เป็นเวทีที่อัดแน่นทั้งคีย์แมนของรัฐบาลและเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั้งในระดับไทยและระดับโลก
เป็นครั้งแรกที่นักธุรกิจระดับชั้นนำ-เจ้าของกิจการเจนเนอเรชั่นที่ 2 และนักบริหารมืออาชีพ ที่มีมูลค่าการลงทุนสดใหม่ รวมกันเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศไทย อยู่ในเวทีในคราวเดียวกัน ถอดรหัสวิกฤติและชี้ให้เห็นโอกาสแห่งอนาคตประเทศไทยที่กำลังมาถึง
เปิดเวทีในช่วงเช้า 09.00 น. ด้วย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ THAILAND 2020 ฉายภาพให้เห็นโอกาสและจังหวะก้าวทางเศรษฐกิจไทย และกลยุทธ์การเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ของโลกรวมถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก ที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อด้วยการบรรยายพิเศษในหัวข้อ Fast forward in Digital Era โดยคุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ชี้ให้เห็นผลกระทบจากคลื่น digital disruption อีกลูกที่น่าจะส่งผลสะเทือนไม่แพ้ลูกแรก หากไม่เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปอาจประสบปัญหาในอนาคต
จากนั้นเป็นคุณวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) สตรีผู้กุมบังเหียนกลุ่มธุรกิจหลัก โรงแรมและการบริการ (hospitality) และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันแรกด้วยมูลค่า IPO เหยียบ 2 แสนล้านบาท ติดดัชนี SET 50 ทันที ขึ้นเวทีฉายวิสัยทัศน์การลงทุน-ทิศทางอุตสาหกรรมทำเงินในเซ็กเตอร์ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นครั้งแรก
ตามมาด้วย คุณชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท บนประสบการณ์ในยานยนต์-อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศมาโดยตลอด ด้วยบทบาทผู้ซัพพลายชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ เจาะไส้ในให้เห็นทิศทางธุรกิจทุกแง่มุม ทั้งปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยกำลังมุ่งหน้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอนาคตอย่างเต็มรูปแบบ
ที่สุดของที่สุดด้วยมุมมอง-ประสบการณ์ ยุคฝ่าวิกฤติธุรกิจแห่งอนาคต ของ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจกว้างขวางไปทั่วโลก ปลายเดือนที่ผ่านมา ซี.พี.เพิ่งลงนามในสัญญาโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่าลงทุน 2 แสนกว่าล้านจากแม่ทัพกลุ่มทรู พลิกวิกฤติสร้างแบรนด์ สู่บิสิซเนสโมเดลใหม่
การวิเคราะห์ และคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าในทุกแง่มุมด้วยความแม่นยำ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจยิ่งโลกปัจจุบัน ไม่มีเส้นแบ่ง หรือพรมแดนการค้าอีกต่อไป
จากผู้ร่วมสัมมนาซึ่งล้วนแล้วเป็นภาคธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ “ประชาชาติธุรกิจ” เชื่อว่างานนี้จะทำให้ผู้ฟังเห็นทิศทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าได้อย่างชัดเจน