สมาชิกราชวงศ์องค์ใดจะแทนที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 หากพระองค์ป่วยโควิดหนักเกินกว่าจะปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวในราชสำนัก
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ประกาศว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้สาธารณชนชาวอังกฤษต่างแสดงความกังวลถึงพระอาการของพระองค์ ที่แม้วังบักกิงแฮมจะระบุว่า พระองค์ทรงมีพระอาการป่วยคล้ายไข้หวัดเล็กน้อย อีกทั้งทรงรับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้วก็ตาม แต่ด้วยพระชนมายุมากถึง 95 พรรษา ทำให้หลายฝ่ายอดเป็นกังวลถึงพระพลานามัยของพระองค์ รวมถึงอนาคตของสถาบันกษัตริย์อังกฤษที่กำลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวหลายกรณี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ตามกฎของราชสำนัก สมเด็จพระราชินีจะทรงมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตั้งแต่สองพระองค์ขึ้นไป โดยนับจากพระอิสริยยศของพระราชวงศ์ระดับสูงที่รองจากควีน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่แทนควีนในกรณีที่พระองค์ป่วยจนต้องระงับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ หรือทำหน้าที่แทนขณะที่ควีนเสด็จต่างประเทศ ปัจจุบันผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ทั้ง 4 ได้แก่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแอนดรูว์ เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ ตามลำดับ
หากพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว มีเพียงเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าชายวิลเลียมเท่านั้น ที่มีแนวโน้มเป็นผู้รับผิดชอบพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ขณะที่เจ้าชายแอนดรูว์ยังคงเผชิญคดีความจากกรณีอื้อฉาว “เอ็ปสตีน” ส่วนเจ้าชายแฮร์รี่ ก็ทรงประกาศสละฐานันดรศักดิ์แล้ว อีกทั้งยังมีกรณีคำให้สัมภาษณ์ของดัชเชสเมแกน ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งวังบักกิงแฮม
แม้ว่าเจ้าฟ้าชาร์ลส์ ในฐานะรัชทายาท จะทรงเป็นเบอร์หนึ่ง ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนควีนระหว่างที่สมเด็จพระราชินีทรงประชวรโควิด แต่ก็ใช่ว่า เจ้าชายชาร์ลส์จะไร้ซึ่งเรื่องอื้อฉาว โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจอังกฤษได้ทำการเปิดการสอบสวนมูลนิธิการกุศล “เดอะ พรินซ์ ฟาวน์เดชัน” ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ต่างตอบแทนด้วยการ มอบยศบรรดาศักดิ์อัศวิน และสัญชาติให้นักธุรกิจใหญ่ชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งบริจาคเงินให้มูลนิธิก้อนโต จนหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิต้องลาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แม้การสอบสวนนี้จะไม่ส่งผลใดต่อความสามารถในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ แต่นั่นส่งผลถึงชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเจ้าชายชาร์ลส์อยู่ไม่น้อย
แม้ในประกาศของวังอังกฤษ จะระบุชัดเจนว่า ควีนทรงมีพระอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังคงประทับ ณ พระราชวังวินเซอร์ต่อไป โดยพระองค์จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แต่ด้วยพระชนมายุ 95 พรรษา อีกทั้งพระองค์เพิ่งฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปี นั่นทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลถึงพระพลานามัยอยู่ไม่น้อย
โรเบิร์ต จ็อบสัน นักเขียนชีวประวัติราชวงศ์ ให้ความเห็นว่า แม้การประชวรของพระราชินีจะทรงผลสะเทือนต่อวังอยู่บ้าง แต่เขามั่นใจว่ายังไม่จำเป็นถึงขั้นที่แต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อย่างไรก็ตาม ด้วยพระชนมายุที่มากแล้ว นั่นทำให้หลายฝ่ายกังวลต่อเหตุไม่คาดคิดที่หลายคนไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้น “ถ้าคนอายุ 95 ปี ใกล้จะ 96 ติดเชื้อโควิด นั่นก็เป็นเรื่องน่าห่วง”
