
ธุรกิจแห่ระดมทุน เรียงคิวเปิดขายหุ้นกู้ลอตใหม่ เดือน ก.ค.นี้ “ไทยเบฟ-DUSIT-ORI-BAFS” นำทัพ
วันที่ 24 มิถุนายน 2566 ประชาชาติธุรกิจ พานักลงทุน ส่องหุ้นกู้เตรียมเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักลงทุนสถาบันและนักรายใหญ่ พร้อมดอกเบี้ยสูงน่าสนใจ สำหรับในรอบเดือนกรกฎาคม 2566 จะมีบริษัทไหนบ้างไปดูกัน
บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ (TBEV)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายในวงจำกัดต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1.อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อัตราดอกเบี้ย % ต่อปี
2.อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570 อัตราดอกเบี้ย % ต่อปี
3.ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ ก่อนครบกำหนด อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2576 อัตราดอกเบี้ย % ต่อปี
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 14 และ 17-18 กรกฎาคม 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AA และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AA
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อใช้ชำระคืนหนี้เดิมของบริษัท ซึ่งรวมทั้งเงินกู้ยืมจำกสถาบันการเงินและหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566
บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BB ส่วนหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท
2.เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
บมจ.ดุสิตธานี (DUSIT)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 5.55% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
โดยเปิดให้จองระหว่าง 3-5 กรกฎาคม 2566 ด้านบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 พบว่าองค์กรมีความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ BBB- และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB-
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566
2.เพื่อใช้เงินทุนหมุนเวียนดังกล่าวเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทและบริษัทย่อย อาทิ ค่าใช้จ่ายพนักงานค่าที่ปรึกษาดำเนินโครงการรวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารอื่น ๆ เป็นต้นรวมถึงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1.อายุ 3 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปีพ.ศ 2569 อัตราดอกเบี้ย 4.30-4.40% ต่อปี
2.อายุ 4 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ 2570 อัตราดอกเบี้ย 4.50-4.60% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อระหว่าง 6-7 และ 10 กรกฎาคม 2566 โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ ส่วนหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเอามาซื้อที่ดินและลงทุนเพิ่มเติม
2.ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและหนี้ระยะสั้น
บมจ.แอสเซทไวท์ (ASW)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1.อายุ 2 ปี 3 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 อัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี
2.อายุ 3 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อัตราดอกเบี้ย 5.95% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2566 โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB- ส่วนหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต
บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1. อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี
2. อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 13-14 และ 17 กรกฎาคม 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ และเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
บล.ดาโอ(ประเทศไทย) (DAOLS)
คาดว่าออกและเสนอขายคุณกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 11 เดือน 29 วัน ดอกเบี้ย 4.00% ต่อปีจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อระหว่าง 17-19 กรกฎาคม 2566 โดยบริษัท ฟิทซ์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จัดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BB+(tha) และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BB(tha)
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
บมจ.เอสจีเอฟ (SGF)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดอายุ 1 ปี 10 เดือน 16 วัน ดอกเบี้ย 6.80% ต่อปีจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.ผู้ออกหุ้นกู้จะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ SGF237A ที่จะครบกำหนดในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จำนวน 400.00 ล้านบาท
2.เพื่อสร้างสภาพคล่องให้ธุรกิจและขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัท
บมจ.เจ้าพระยามหานคร (CMC)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.30% ต่อปีจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หลักประกัน คือ
1.ห้องชุดพักอาศัย จำนวน 210 ห้องชุดโครงการอาคารชุด ชาโตว์ อินทาวน์ ปั่นเกล้า มูลค่าประเมิน 550.63 ล้านบาท
2.จำนองที่ดินเปล่า จำนวน 1 โฉนด บริเวณซอยรัชดาภิเษก 36 ถนนรัชดาภิเษก มูลค่าประเมิน 11.88 ล้านบาท โดยมูลค่าหลักประกันรวม ไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้
1.เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทและลงทุนซื้อที่ดินสำหรับโครงการใหม่ในอนาคต
2.เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ
บมจ.นครหลวง แคปปิตอล (NKON)
คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่หลักประกัน คือ สิทธิเรียกร้องที่ผู้ออกหุ้นกู้มีอยู่กับลูกหนี้การค้า โดยมีจำนวนเงินสูงสุดที่ตกลงใช้ทรัพย์สินเป็นประกัน จำนวน 400,000,000 บาท และมีมูลค่าที่ตกลงใช้ทรัพย์สินเป็นประกันไม่ต่ำกว่า 1:1 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายทั้งหมด
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหนี้สถาบันการเงินและใช้ในการขยายธุรกิจสินเชื่อ
บมจ.ชีวาทัย (CWTTH)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอน หุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน และ 3-4 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัท ชีวาทัย จกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
2.เพื่อใช้ลงทุนในการซื้อที่ดิน
3.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดและ มีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้
ลงทุนรายใหญ่ เงื่อนไขการจ่ายดอกเบี้ยมีดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-5 เท่ากับ 6.85 -7.251% ต่อปี
- -อัตราดอกเบี้ยปีที่ 6-25 เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ(ค) อัตรา 0.25% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยปีที่ 26-50 เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 1.00% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 51 เป็นต้นไป เท่ากับผลรวมของ (ก) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (ข) Initial Credit Spread และ (ค) อัตรา 2.00% ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยจะปรับทุก ๆ 5 ปี โดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ สิ้นสุดวันทำการของสองวันทำการก่อนวันเริ่มต้นของงวดการปรับอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องโดยที่ Initial Credit Spread จะเท่ากับ [ ]% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+(tha) และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB-(tha)
วัตถุประสงค์การใช้เงิน
1.เพื่อขยายและปรับปรุงกิจการ
2.เพื่อชำระหนี้เดิม
บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (TAKUNI)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.เพื่อลงทุนในโครงการมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า EV, จัดจำหน่ายสินค้า, ชิ้นส่วน, สินเชื่อ และโครงการอื่น ๆ ที่บริษัทจะลงทุนในอนาคต
2.เพื่อลงทุนในบริษัทอื่นที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน
บมจ.ธีระมงคล อุตสาหกรรม (TMI)
คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันซึ่งผู้ออกมีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อระหว่าง 24-26 กรกฎาคม 2566 โดยองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ ดังนี้
1.บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้มีประกันของ บริษัท ธีรมงคลอุตสาหกรรม จำกัด มหาชน ครั้งที่ 2/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน (TMI238A) ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 5 สิงหาคม 2566
2.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท