Whizdom The Forestias ซีรีส์คอนโด Mytopia by MQDC

MQDC

ยิงสลุตการลงทุนโครงการใหม่หลังยุคโควิด ตั้งแต่ต้นปี 2565 อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเป็นคิวของซีรีส์คอนโดมิเนียมในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนทำเลบางนา-ตราด กม.7

โดยจับจังหวะกลางไตรมาส 3/65 เปิดตัวลักเซอรี่แบรนด์ภายใต้ Whizdom และตอกย้ำการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกหนึ่งเดียวในเมืองไทย กลายเป็นที่มาของชื่อโครงการ “Whizdom The Forestias : Mytopia”

เจาะ 4 กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่

โดย “อัษฎา แก้วเขียว” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า Whizdom The Forestias : Mytopia พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่

จุดเด่น นำเสนอมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตแบบ Vertical Living ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live it all” ที่ Whizdom The Forestias รองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างน้อย 4 กลุ่มหลัก ทั้งคนโสด คู่รักที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก ครอบครัวยุคใหม่ที่มีลูกเล็ก และคนรักสัตว์เลี้ยง

“เดอะฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการเมืองแห่งแรกที่ออกแบบทุกมิติ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และมีความสุข ด้วยมูลค่าโครงการที่สูงถึง 1.25 แสนล้านบาท จึงเป็นแม็กเนตที่ดึงดูดความสนใจคนที่มองหาที่พักอาศัย ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพชีวิตเหนือระดับ ดังนั้น การนำเสนอแบรนด์คอนโดฯ Whizdom The Forestias จึงเป็นการต่อยอดฐานลูกค้าเดิมและกระจายทำเลสร้างฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อม ๆ กัน”

กระแสความนิยมมีตัวชี้วัดได้จาก MQDC เพิ่งจะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่ามีผู้สนใจนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง นับเป็นกระแสตอบรับที่น่าพอใจ

Live it all ครบจบที่เดียว

สำหรับผลดำเนินงานในภาพรวมของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC ในช่วงที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ MQDC ระบุว่า โครงการที่อยู่อาศัย Whizdom The Forestias อาคารที่เปิดขายไปก่อนหน้า สามารถทำยอดขายทะลุถึงกว่า 70% แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักเซอรี่แบรนด์ “ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์” โครงการแรกในประเทศไทย, “ดิ แอสเพน ทรี” โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อคนสูงวัย 50 ปีขึ้นไปแบบ Holistic Lifetime Care การบริการที่พร้อมดูแลตลอดชีวิต และ “มัลเบอร์รี โกรฟ” โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น

ล่าสุดคือ “Whizdom The Forestias” ซึ่งมีปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่การนำเสนอมาตรฐานใหม่ของบ้านแบบ Vertical Living ที่ดึงจุดดีและจุดเด่นของบ้านและคอนโดมิเนียมมาหลอมรวมกัน ทำให้การอยู่อาศัยในคอนโดฯ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านแนวราบ

นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบของการผสานนวัตกรรมการดีไซน์ ตอบสนองทุกฟังก์ชั่นของการใช้ชีวิต ผ่านกระบวนการคิดออกแบบจากรากฐานแห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live it all ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบได้ครบจบในที่เดียว

ถอดรหัสซีรีส์ Whizdom

จุดโฟกัสของ Whizdom เน้นเป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) สำหรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ (Next Generation Living) ผ่านการผสานนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีผลการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความสุขและคุณภาพชีวิต การมีเซฟโซน โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของครอบครัว ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการใช้เงิน โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมทั้งสิ่งมีค่าที่สุดที่ให้ความสำคัญคือเวลา

ทั้งหมดนี้ ถอดรหัสออกมาเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่ใส่เข้าไปในโครงการของ Whizdom อาทิ การออกแบบที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้เวลาได้อย่างมีคุณภาพอย่างแท้จริง การผสานธรรมชาติ การจัดอาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงโลเกชั่นที่สะดวกสบายสำหรับการใช้ชีวิต เป็นต้น

คอนโดฯเทกวิวผืนป่า 30 ไร่

ไฮไลต์ของโครงการ Whizdom The Forestias : Mytopia คือเป็นคอนโดฯไฮไรส์ ออกแบบให้มีความสูง 42 ชั้น ตัวอาคารตั้งอยู่ใกล้ชิดกับผืนป่าขนาดใหญ่ 30 ไร่ ซึ่งเป็นหัวใจของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์

โดยตัวอาคารหันหน้าเข้าหาผืนป่า ทำให้เปิดรับทิวทัศน์และอากาศบริสุทธิ์จากผืนป่าอย่างเต็มที่ เมื่อมองจากชั้นสูงของอาคารจะได้เทกวิวยอดไม้ที่ลดหลั่นอุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน หากอยู่ในชั้นไม่สูงมากนัก ก็จะได้ความรู้สึกกลมกลืนเสมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

ถือเป็นความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Whizdom The Forestias อย่างแท้จริง

สไตล์ลอฟต์เพดาน 5.4 เมตร

ทั้งนี้ Whizdom The Forestias ประกอบไปด้วย 3 อาคาร ได้แก่ “Destinia-Mytopia-Petopia”

โดยอาคาร Whizdom The Forestias : Destinia มุ่งเน้นตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ที่มีลูกเล็ก

ส่วนอาคาร Whizdom The Forestias : Mytopia ออกแบบเพื่อตอบโจทย์คนโสด หรือคู่รักที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก

และอาคาร Whizdom The Forestias : Petopia ดีไซน์เพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง มีการศึกษาวิจัยอย่างรอบด้าน ออกแบบทุกรายละเอียดและทุกมิติ เพื่อคนที่รักและชื่นชอบสัตว์เลี้ยง ให้สามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย

เจาะรายละเอียดโครงการ Whizdom The Forestias : Mytopia ประกอบไปด้วยที่พักอาศัยจำนวน 360 ยูนิต มีให้เลือกตั้งแต่ห้องชุด 1-2-3 ห้องนอน, ห้องชุดดูเพล็กซ์ (มี 2 ชั้น), ห้องชุดเพนต์เฮาส์ และห้องชุดฟอเรสต์ ดูเพล็กซ์ เพนต์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 34 ตารางเมตร ถึง 190 ตารางเมตร ราคา 5.7-32.7 ล้านบาท

สำหรับแฟนคลับของ MQDC ห้องชุดที่เป็นไฮไลต์ของโครงการ เป็นห้องสไตล์ Loft ที่ออกแบบมาให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น วิธีการยืดขยายความสุขด้วยดีไซน์พื้นชนเพดานมีความสูง 5.4 เมตร สามารถสัมผัสวิวป่าธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และความสูงโปร่งขนาดนี้ ยังช่วยให้การตกแต่งสไตล์ลอฟต์มีความโดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นการออกแบบเพิ่มพื้นที่ให้กับบริเวณชั้นลอย โดยคงความรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัว ด้วยการแยกพื้นที่ระหว่างห้องนอนที่อยู่ชั้นลอยด้านบน กับห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นล่าง การจัดสรรพื้นที่ครัวแบบปิด พร้อมกับออกแบบพื้นที่และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

สุดติ่งประสบการณ์สีเขียว

อีกจุดโดดเด่นของ Whizdom The Forestias คือความสูงจากพื้นดินของตัวอาคาร ที่เอื้อให้มองเห็นพื้นที่ทั้งหมดของผืนป่า สร้างประสบการณ์พื้นที่สีเขียวตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่โครงการในแบบที่ไม่เคยสัมผัสจากที่ใดมาก่อน

กล่าวคือ โครงสร้างของอาคารที่ถูกยกให้อยู่เหนือฐานของโพเดียม ทำให้มองดูเหมือนลอยอยู่บนยอดไม้ เจ้าของห้องชุดสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน โดยชั้นบนของโพเดียมเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พาดระหว่าง 2 อาคาร มีพื้นที่สระว่ายน้ำและเครื่องเล่นสำหรับเด็ก พื้นที่พักผ่อนใกล้กับสระว่ายน้ำ สวนกลางแจ้ง ยิมในร่ม Pool Lounge และพื้นที่ในอาคารสำหรับเด็ก ๆ

นอกจากนี้ facade (องค์ประกอบด้านหน้าอาคารที่มองเห็นได้ชัดเจน) ยังเลือกใช้โครงเหล็กแบบเมกะเฟรมที่สูงกว่าปกติ 3 เท่า นอกจากจะให้ความรู้สึกไฮเอนด์แล้ว ยังช่วยป้องกันรังสีจากแสงแดดภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร ฟังก์ชั่นที่ว้าวมากขึ้นไปอีกอยู่ในส่วนทางเดินบริเวณล็อบบี้ลิฟต์ ที่ออกแบบให้มีการระบายอากาศตามธรรมชาติอีกด้วย


เติมเต็มคุณภาพชีวิตด้วยภาพใหญ่ของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินรวม 398 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด ทำเลเชื่อมแบบไร้รอยต่อ สู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้นี้