เมเจอร์ฯ ชูจุดขายห้องชุดโอนกรรมสิทธิ์ บุกทำเลหลังสวนเปิดคอนโดหรู”มิวนีค”28ชั้น166ยูนิต ไซซ์ใหญ่50-254ตร.ม. เฉลี่ย3.1แสน/ตร.ม.

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “มิวนีค หลังสวน” ระดับลักเซอรี่ บนที่ดิน 566 ตารางวา มูลค่าโครงการ 4,085 ล้านบาท

รายละเอียดคอนโดฯ มิวนีค หลังสวน ออกแบบเป็นอาคารไฮไรส์ 28 ชั้น บนที่ดิน 1-1-66 ไร่ รวม 166 ยูนิต มีให้เลือกแบบ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 50-254 ตารางเมตร เริ่มตารางเมตรละ 2.65 แสนบาท มีราคาเฉลี่ย 3.1 แสนบาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้นยูนิตละ 12.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ แบบ 1 ห้องนอนเริ่ม 50 ตารางเมตร, แบบ 2 ห้องนอน เริ่มต้น 83 ตารางเมตร และแบบ 3 ห้องนอน เริ่ม 121 ตารางเมตร กับห้องเดอะคอลเลคชันหรือมินิเพนต์เฮาส์ 7 ยูนิต เริ่ม 71-254 ตารางเมตร และมีที่จอดรถระบบอัตโนมัติ 185 คัน คิดเป็นสัดส่วน 111%

พื้นที่ส่วนกลาง อาทิ สกายเลาจน์ Decanter sky lounge สามารถจัดปาร์ตี้ได้ชมวิวกรุงเทพ, สกายฟาซิลิตี้ยังมีห้องดูหนัง สกายเธียเตอร์ ที่จอดรถมีระบบออโต้ปาร์กกิ้งพร้อมด้วยบริการจุดชาร์จรถไฟฟ้า EV Charger

ตามแผนเตรียมเปิดพรีเซล 10-11 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่ามียอดพรีขาย 50% บริษัทโดยบริษัท MJD-JV1 ทำเลอยู่ซอย 7 สุดซอย อีกไม่นานจะเปิดถนนเชื่อมถึงถนนหลังสวน ตั้งเป้าก่อสร้างกลางปีนี้ แล้วเสร็จในปี 2564

นางสาววรรณพร พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแลนด์ สเปค จำกัด สถาปนิกโครงการกล่าวว่า ในซอยต้นสนมีการทำผังเชื่อมโยงถนนต้นสน ถนนสารสิน เข้าสู่สวนลุมพินี ปรับภูมิทัศน์ต้นไม้ให้ร่มรื่น ปรับทางเท้าเดินสะดวก รวมถึงการปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองซอยต้นสน โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร มีการสร้างฝายและทำให้น้ำหมุนเวียน

“การออกแบบมีการเชื่อมโยงภูมิทัศน์ภายในและภายนอกโครงการ เช่น ต้นจามจุรี ดึงกลับเข้ามาไว้ในโครงการทำให้เชื่อมเข้าเป็นทำเลเดียวกัน”

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดลักเซอรี่มีผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวน้อยมาก ล่าสุดปีที่แล้วมีปัจจัยบวก ส่งผลให้แนวโน้มตลาดลักเซอรี่ปีนี้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะลูกค้านักลงทุน

“เวลาเราขายคอนโดฯ ตารางเมตรละ 3 แสน มักมีคำถามเสมอว่ามีคนซื้อจริงเหรอ หลายครั้งเราต้องตอบว่ากลุ่มคนกำลังซื้อถึง เขาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์มาอยู่คอนโดฯ มากขึ้น และสนใจอยู่ในทำเลใจกลางเมือง, กลุ่มลูกค้าต่างประเทศก็มีดีมานด์เพิ่มเห็นชัด ทำให้ทิศทางตลาดลักเซอรี่จึงมองว่าดีกว่าปีที่แล้ว”

อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายในด้านราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น, การแข่งขันของดีเวลอปเปอร์ด้วยกัน เพราะตลาดบูมเมื่อไหร่ทำให้ภาวะราคาถีบตัวสูงขึ้น

สำหรับต้นทุนราคาที่ดินสูงขึ้น กระทบต่อราคาขายห้องชุดสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ในด้านผู้ซื้อวันนี้มอง 2-3 เรื่องหลัก 1.การออกแบบหรือโปรดักส์ มองย้อน 30-30 ปี ภาพรวมการดีไซน์เปลี่ยนแปลง ไม่ว่ายูนิตไซซ์ ฟังก์ชัน ปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วงสองปีที่ผ่านมามีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ผู้ซื้อบางครั้งมีข้อมูลดีกว่าผู้พัฒนาโครงการด้วยซ้ำ การแข่งขันดีไซน์จึงต้องปรับตัวและพัฒนารวดเร็วมาก

2.แข่งสูงและยังพัฒนาได้อีกเยอะ นั่นคือการก่อสร้างและการส่งมอบ เพื่อให้สำเร็จในด้าน zero defect

3.ด้านบริการ ไม่ใช่เฉพาะการขาย แต่พูดถึงตั้งแต่ส่งมอบและบริการหลังการขายด้วย

นางสาวอลิวัสสากล่าวด้วยว่า การโฟกัสแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยจุดไพร์มแอเรียใจกลางเมืองต้องมีโอเพ่นสเปซและพื้นที่สีเขียวเยอะที่สุด นั่นคือสวนลุมพินี โดยช่วงสิบปีนับจากนี้จะได้รับการพัฒนาขนานใหญ่ ไม่ว่าโครงการวันแบ็งคอก, ดุสิตธานี-ซีพีเอ็น, สยามสินธร ทำให้มีการฟอร์มตัวของรูปแบบอาคารสูงสมัยใหม่ ครีเอทสกายไลท์ให้กับกรุงเทพฯ จึงเป็นทำเลที่มีราคาสูงสุดของกรุงเทพฯ

ในขณะที่คอนโดฯ มิวนีค หลังสวน จุดขายมีหลายอย่างมาก เรื่องแรกเลยคือเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ท่ามกลางที่ดินเช่า ในขณะที่ฟาซิลิตี้มีการพัฒนาต่อยอดตลอดเวลา

“เวลาเราซื้อลงทุนต้องดูมูลค่าเพิ่ม ถ้าดีมานด์มากกว่าซัพพลาย สินค้าทำเลนั้นจึงเป็นสินค้าหายาก โดยเฉพาะราคาที่ดินหลังสวน โดยราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 3.1 แสนบาท ถือว่ายังมีรูมที่จะปรับตัวขึ้นได้อีกมาก” นางสาวอลิวัสสากล่าว