คึกคัก! เอกชน 300 ราย แห่ฟังร่างทีโออาร์ลงทุนงานระบบมอเตอร์เวย์ 2 สายใหม่ ยื่นซอง มี.ค.นี้

คึกคัก! เอกชน 300 ราย แห่ฟังร่างทีโออาร์ลงทุนงานระบบมอเตอร์เวย์ 2 สายใหม่ ยื่นซอง มี.ค.นี้ “บางใหญ่-กาญจน์” เลื่อนเปิดเป็นปี’64

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่าวันที่ 31 มกราคม 2561 กรมจัดงานสัมมนาเผยแพร่ข้อมูลโครงการก่อนประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน PPP Gross Cost ในการดำเนินงานและบำรุงรักษา โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน–นครราชสีมา และสายบางใหญ่–กาญจนบุรี

เพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดโครงการ รูปแบบการลงทุน ร่างเอกสารเงื่อนไขการร่วมลงทุน พร้อมรับฟังความคิดเห็นและตอบข้อซักถามจากผู้ที่สนใจในโครงการ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมงานสัมมนามากกว่า 300 คน

จะแบ่งกรอบระยะเวลาการลงทุน 2 ระยะ ในระยะที่ 1 ​เอกชนออกแบบและลงทุนก่อสร้างงานระบบและองค์ประกอบอื่นๆ โดยสายบางปะอิน-โคราช อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท และบางใหญ่-กาญจนบุรี 6,000 ล้านบาท จะใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน โดยทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้างเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมทางหลวง

ระยะที่ 2 ​เอกชนดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการทั้งหมด ทั้งส่วนงานโยธาที่กรมเป็นผู้ลงทุนและงานส่วนที่เอกชนเป็นผู้ลงทุน โดยเอกชนเป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางและมอบให้กรมทางหลวง ระยะเวลาสัญญาไม่เกิน 30 ปีนับแต่เปิดให้บริการ ซึ่งรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมดจะเป็นของกรมเพื่อส่งเข้ากระทรวงการคลังและจ่ายค่าตอบแทนให้เอกชนเป็นรายปีจนกว่าสิ้นสุดสัญญา

โดยผลตอบแทนที่รัฐจะจ่ายกลับคืนให้เอกชน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ค่าลงทุนก่อสร้างงานระบบ และ 2.ค่าจ้างการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ (O&M) โดยสายบางปะอิน-โคราชไม่เกินกรอบวงเงิน 3.3 หมื่นล้านบาทและบางใหญ่-กาญจนบุรีไม่เกิน 2.7 หมื่นล้านบาท หากเอกชนไม่สามารถบริหารจัดการได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ กรมจะคิดค่าปรับตามเงื่อนไขข้อกำหนดตามสัญญา

สำหรับการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการ กรมจะเร่งเดินหน้าดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 โดยสิ้นเดือน ก.พ.​ประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน จากนั้นเดือน มี.ค.​ขายซองเอกสาร และช่วง มี.ค. – ก.ค.ให้เวลา​เอกชนจัดทำเอกสารและยื่นข้อเสนอ จากนั้นกรมจะใช้เวลาประเมินข้อเสนอและเจรจาต่อรองเดือนก.ค.-ก.ย. และตรวจร่างสัญญาและเสนอขออนุมัติผลการคัดเลือกเดือนต.ค.-พ.ย. เมื่อได้ข้อยุติเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบและลงนามสัญญาในเดือนธ.ค.นี้

ปัจจุบันความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธาสายบางปะอิน-โคราชอยู่ที่ 25% จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการปลายปี 2563 ส่วนสายบางใหญ่-กาญจนบุรี คืบหน้า 5% ยังล่าช้าจากแผนอยู่ประมาณ 8-9 เดือน เนื่องจากติดเวนคืนที่ดิน อาจจะทำให้การเปิดบริการขยับจากในปี 2563 เป็นปี 2564