ในที่สุด “บอร์ด-คณะกรรมการ” การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มี พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธาน มีมติเลิกจ้าง “ณรงค์ เขียดเดช” เป็นผู้ว่าการ กทพ. โดยชี้ว่า “ขาดคุณสมบัติ” มีผลวันที่ 15 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ “ณรงค์” ถูกโยกไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2560 เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคุณสมบัติที่มีผู้ร้องเรียนทำผิดเงื่อนไขสัญญาจ้าง
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
เนื่องจากในช่วงที่ “ณรงค์” ลงสมัครสรรหาผู้ว่าการ กทพ. ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ของ กทพ. จนบานปลายกลายเป็นปมขย่มเก้าอี้
“บอร์ดบอกว่าผู้ว่าการณรงค์มีคุณสมบัติต้องห้าม เพราะเป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรแสวงหากำไร ซึ่งถ้าตีความลักษณะนี้ แล้วสหกรณ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่ผู้ว่าการก็เป็นประธานด้วยก็ถือว่าเป็นองค์กรแสวงหากำไรเหมือนกัน” แหล่งข่าวจาก กทพ.กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”
ว่ากันว่า..ปัญหาเรื่องคุณสมบัติต้องห้าม น่าจะเป็นทางออกดีที่สุดที่จะปลดผู้ว่าการณรงค์ พ้นจากเก้าอี้
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง “ณรงค์” กับ “พล.อ.วิวรรธน์” ก็ไม่ค่อยราบรื่น หลังทำงานไม่จูนกัน “เหตุผลลึก ๆ ทั้ง 2 คนทำงานเข้ากันไม่ได้เลยที่ผ่านมา ประธานบอร์ดทำงานสไตล์ทหาร สั่งแล้วต้องได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี แต่ผู้ว่าการทางฯจะค่อนข้างช้า
ถูกมองว่าไม่กล้าตัดสินใจ งานนโยบายต่าง ๆ เลยไม่ค่อยได้รับการขับเคลื่อนออกมาเป็นรูปธรรม” แหล่งข่าวจาก กทพ.กล่าวและว่า ที่น่าห่วงคือมีงานที่ กทพ.ต้องเร่งผลักดัน ซึ่งมีทั้งโครงการก่อสร้างทางด่วนใหม่ จำนวน 2 เส้นทาง ที่รัฐบาลมีนโยบายจะระดมทุนจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) มาดำเนินการ 44,819 ล้านบาท
ได้แก่ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. วงเงิน 31,244 ล้านบาท และสายทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือช่วง N2 และ N3 เงินลงทุน 14,382 ล้านบาท ระยะทาง 10.5 กม.
ที่น่าจับตามีการพิจารณาขยายอายุสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 1(เฉลิมมหานคร) และขั้นที่ 2 (ศรีรัช) ให้กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้รับสัมปทาน 30 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 28 ก.พ. 2563 และการปรับขึ้นค่าผ่านทางจะครบกำหนดวันที่ 1 ก.ย.นี้ ที่ กทพ.เตรียมเริ่มเจรจากันในเดือน เม.ย.นี้
นับว่าเป็นเผือกร้อนน่าติดตามไม่น้อยท่ามกลางองค์กรที่ไร้ซึ่งตัวจริงมาบริหาร