รถไฟดีเซลราง “ลาดกระบัง-หัวลำโพง” เร็วไม่แพ้แอร์พอร์ตลิงก์ ค่าโดยสาร 10-20 บาท

รถไฟดีเซลราง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 30 มี.ค. 2561 เป็นวันแรกที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นำรถไฟดีเซลรางมาวิ่งบริการจากสถานีลาดกระบัง-หัวลำโพง-ลาดกระบัง เพื่อช่วยระบายผู้โดยสารแอร์แอร์พอร์ตลิงก์ที่คนใช้บริการหนาแน่นในชั่งโมงเร่งด่วน เก็บค่าโดยสารรถปรับอากาศ 20 บาท และรถพัดลม 10 บาท

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการเปิดเดินขบวนรถดีเซลรางพิเศษช่วยการโดยสาร ลาดกระบัง-กรุงเทพ-ลาดกระบัง ที่ให้บริการในวันแรก เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชนในชั่วโมงเร่งด่วน

โดยมีนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ พร้อมผู้บริหารการรถไฟฯ ร่วมเดินทาง สำหรับผู้โดยสารที่มีตั๋วรายเดือน สามารถใช้ตั๋วดังกล่าวได้ แต่ต้องเสียค่าโดยสารส่วนต่างเพิ่มให้เท่ากับอัตราพิเศษของขบวนรถนี้

นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่าเนื่องจากในปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น วันจันทร์ – วันศุกร์ ที่มีผู้โดยสารต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร และเป็นไปตามนโยบาย One Transport One Family บริษัทจึงได้ทำการหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการเพิ่มช่องทางการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร

เวลาให้บริการ-ค่าโดยสาร

โดยเตรียมนำรถไฟดีเซลรางจำนวน 6 ตู้ แบ่งเป็นตู้ปรับอากาศจำนวน 2 ตู้ และตู้ธรรมดาจำนวน 4 ตู้ ให้บริการในวันจันทร์ – วันศุกร์ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าจำนวน 1 เที่ยว ออกจากสถานีลาดกระบังไปสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 07.45 น. และให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนเย็นจำนวน 1 เที่ยว ออกจากที่หยุดรถพญาไทไปสถานีลาดกระบัง เวลา 18.45 น.

รถไฟรางดีเซลจะใช้เวลาในการเดินทางช่วงระหว่างสถานีลาดกระบัง – ที่หยุดรถพญาไท ประมาณ 40 นาที ซึ่งรถไฟ 1 เที่ยวสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 600 คน โดยคิดค่าบริการตู้ปรับอากาศราคา 20 บาท ส่วนตู้ธรรมดาราคา 10 บาท

สถานีรถไฟดีเซลราง "ลาดกระบัง-หัวลำโพง"

รฟท. นำรถไฟดีเซลรางมาวิ่งเสริม ลาดกระบัง-หัวลำโพง

บรรยากาศภายในรถไฟดีเซลราง "ลาดกระบัง-หัวลำโพง"