เปิดประวัติ สมศรี เตชะไกรศรี บอสใหญ่ LPP เธอเป็นใคร

สมศรี เตชะไกรศรี

ชวนรู้จักเอ็มดีหญิง “สมศรี เตชะไกรศรี” บริษัท LPP ในเครือ LPN ที่เตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ หวังผงาดในธุรกิจหลังบ้าน รับบริหารนิติอาคารชุด คอนโดฯ ทั่วประเทศ โดยเตรียมยื่นไฟลิ่งในเดือนเม.ย. นี้

วันที่ 10 มีนาคม 2567 มีคำถามกันมามาก ว่า บริษัท LPP ทำธุรกิจอะไร แล้วคุณสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ LPP เป็นใคร มาจากไหน “ประชาชาชาติธุรกิจ” ขอเปิดประวัติความน่าสนใจ ดังนี้

บริษัท แอล พี พี พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเม้นท์ จำกัด หรือ LPP ประกาศตัวเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เนื่องจากมีประสบการณ์ตรงมานานกว่า 32 ปีในวงการอสังหาริมทรัพย์ บริหารจัดการอาคารชุดพักอาศัยมาแล้ว 261 โครงการ ดูแลลูกบ้านรวมกว่า 4 แสนราย และสร้างรายได้ให้บริษัทฯ ต่อปีเป็นเงินนับพันล้านบาท ถือว่าใหญ่และเก๋าจริง

ปัจจุบันบริษัทฯ มีการให้บริการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1.LPP Property ธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรอาคารและชุมชน บริหารชุมชนบริหารทรัพยากรอาคารนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจแพลตฟอร์ม

2.LPS Project Management ธุรกิจบริการวิศวกรรมและที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ บริการวิศวกรรม ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์บริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง

ADVERTISMENT

3.LSS Security Solutions ธุรกิจบริการรักษาความปลอดภัยและความสะอาด

โดยกลุ่มธุรกิจดังกล่าว อยู่ในเครือบริษัทแม่อย่าง LPN ผู้ประกอบการโครงการคอนโดมิเนียมที่มีชื่อเสียง ผู้สร้างปรากฏการณ์คำว่า “คอนโดฯ ล้านต้นๆ” และเป็นผู้นำตลาดซิตี้คอนโดฯ ในยุคหนึ่ง

ADVERTISMENT

บริษัทที่ LPP เข้าไปบริหารจัดการ60% คือบริษัทLPN และจากโครงการของเอกชนรายอื่นอีก 40% อาทิ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน) หรือ ANAN, บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เป็นต้น

สำหรับ สมศรี เตชะไกรศรี ผู้บริหารหญิงก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือ ทายาทของผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท LPN ซึ่งมีฐานธุรกิจหลายอย่างที่แข็งแกร่งในย่านกิ่งแก้ว บางนา-ตราด ทั้งเป็นเจ้าของแบรนด์ปลาหมึกสำเร็จรูปแบรนด์ “สควิดดี้” เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ “ยิ่ง” หรือ “สรพจน์ เตชะไกรศรี” ผู้ปลุกปั้นและอดีตเจ้าของโครงการมหานคร มูลค่าหมื่นล้าน ย่านสาทร ติดบีทีเอส สถานีช่องนนทรี ซึ่งเป็นตึกสูงที่มีดีไซน์แปลกและทันสมัยที่สุดโครงการหนึ่งในประเทศไทย

และถือเป็นหลานรักของตระกูล “เตชะไกรศรี” ปัจจุบันอายุ 63 ปี มีชื่อเล่นว่า “ข้าวเหนียว” เรียนจบด้านกฎหมาย จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มินิ MBA

เธอเคยให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า “ความที่เป็นหลานคนแรกและคนโตของตระกูล ทำให้ผู้ใหญ่คนในครอบครัวรักและเป็นห่วงมาก จนตัวเองรู้สึกอยากออกไปท่องโลกกว้าง จำได้ว่าสมัยรุ่น ๆ ตอนได้ไปต่างประเทศครั้งแรก น่าจะประเทศญี่ปุ่นได้ไปเที่ยวไปเรียน รู้สึกสนุกมาก ตื่นตาตื่นใจ เป็นประสบการณ์ในชีวิตที่จำไม่ลืม รวมถึงการออกเรือนแต่งงานมีลูก ทำให้รู้ว่า ความรักความห่วง หวงลูกนั้นเป็นเช่นไร

ส่วนเรื่องงานที่ไม่ลืมเหมือนกันคือ เราเป็นพนักงานคนแรกของบริษัท LPN ที่พบเจอกับยุควิกฤตฟองสบู่แตกในปี 2540 ยุคนั้นทั้งผู้บริหารและพนักงานต้องช่วยกันเต็มที่ เพื่อให้บริษัทอยู่รอด ตอนนั้นทุกคนได้ออกไปแจกใบปลิว ประกาศขายลดราคาคอนโดถึง 50 % เรียกว่า ขายขาดทุนแบบกลืนเลือดกันเลยทีเดียว ส่วนตัวเหนียวเองก็ได้ซื้อไว้อยู่เองด้วยเป็นโครงการแรก ๆ ของ LPN เป็นคอนโดฯ ในเมืองย่านตลาดน้อย”

จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของบริษัทในธุรกิจด้านบริหาร “นิติบุคคล” นาน 32 ปี ทำให้ได้รับความเชื่อถือในคุณภาพและบริการแบบ “บอกต่อปากต่อปาก” หรือ Word-of-Mouthปี 2567 บริษัทเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง LPP เตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai โดยคาดว่าจะยื่นคำขอเพื่อเสนอขาย (Filing) ได้ในเดือนเมษายน 2567 นี้

“ถึงเวลาที่ LPPจะเติบโตด้วยการยืนบนขาของตนเอง โดยรับบริหารอาคารนอกเครือและขยายธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสมศรีกล่าว

โดยในปี 2567นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 1,880 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% และสามารถสร้างรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 2,545 ล้านบาท ภายในปี 2569 และคาดรับบริหารโครงการเพิ่ม 20-30 โครงการ นอกจากนี้ยังวางแผนขยายรับงานบริหารจัดการไปยังจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นโดยเน้นจังหวัดที่บริษัท LPN ได้เข้าไปลงทุน และพัฒนาโครงการแล้ว เช่น ชลบุรี อุดรธานี หัวหิน เป็นต้น

“บริษัทต้องการที่จะพัฒนาและเติบโตขยายธุรกิจต่อไป และเรามีบริการที่ครบวงจร มีเรื่องของบริหารชุมชน ฝากขาย-เช่า และเรื่องของความปลอดภัย ตอนนี้เรามีศูนย์ Emergency ที่ตึกลุมพินี สามารถเชื่อมกับทุกโครงการที่เราบริหารหากเกิดเหตุฉุกเฉินเราสามารถเข้าไปซัพพอร์ตได้ทันที 24 ชม. เรามี ISO  ถือเป็นมาตรฐานสากล และใส่ใจเรื่อง well-being ใส่ใจในเรื่องของผู้พักอาศัยและพนักงาน และมีอะคาเดมี่ซึ่งพัฒนาในเรื่องขององค์ความรู้ของพนักงาน” นางสมศรีกล่าวทิ้งท้าย