นั่งเครื่องต่อรถบูมเที่ยวภาคตะวันออก! เปิดบริการรถโดยสารสนามบินอู่ตะเภาไป”ตราด-ระยอง-ชลบุรี”ค่าโดยสาร24-130บาท

นายสนิท พรหมวงศ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมได้ประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ เปิดให้บริการเส้นทางเข้าสู่สนามบินแล้ว 22 แห่ง จากทั้งหมด 33 แห่ง โดยในจำนวนนี้รวมถึงการให้บริการเส้นทางรถโดยสารเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาด้วย ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างพิจารณาผู้ประกอบการขนส่งที่มีความพร้อมเข้าให้บริการ โดยจะดำเนินการครอบคลุมครบทุกสนามบินภายในปี 2561

สำหรับรถโดยสารที่จะให้บริการภายในสนามบินอู่ตะเภามีทั้งสิ้น 3 เส้นทาง โดยจะเริ่มเปิดบริการวันนี้เป็นต้นไป เก็บค่าโดยสารตามระยะทาง ได้แก่

สาย 398 ตราด – อู่ตะเภา โดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ตราด, จ.จันทบุรี, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 1, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสาร 130 บาท

สาย 399 ระยอง – อู่ตะเภา โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอช ระยอง เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 2, อ.บ้านฉาง, ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภารวมระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 33 นาที ค่าโดยสาร 24 บาท

สาย 400 ชลบุรี – อู่ตะเภา โดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ชลบุรี, อ.ศรีราชา, เมืองพัทยา, อ.สัตหีบ, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 34 นาที ค่าโดยสาร 64 บาท

ทั้งนี้ ในแต่ละเส้นทางใช้รถโดยสารปรับอากาศมาตรฐานใหม่ มีระบบความปลอดภัยครบครัน ติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว (Speed Monitor) มีระบบเบรก ABS ตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดและมีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยผ่านการตรวจรับรองโดยกรมการขนส่งทางบก

จะใช้จำนวนรถ 2-4 คัน ในแต่ละเส้นทางเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินประมาณ 40 เที่ยวต่อวัน และในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นถึง 50 เที่ยวต่อวัน ผู้ประกอบการขนส่งสามารถบริหารจัดตารางเดินรถให้สอดคล้องกับตารางเที่ยวบินได้อย่างเหมาะสม

โดยคาดการณ์ว่าเส้นทางรถโดยสารเชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาทั้ง 3 เส้นทาง จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ และทิศทางการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มักนิยมเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ

ด้าน พลเรือเอก รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า สนามบินอู่ตะเภา อยู่ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 35 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ 30 กิโลเมตรจึงได้รับการเลือกให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศ และเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก โดย มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และก่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดและภูมิภาค

สำหรับสายการบินของไทยที่ให้บริการ ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยไลอ้อนแอร์ และนกแอร์ส่วนสายการบินจากต่างประเทศ ได้แก่ Azur Air, Royal Flight, North Wing, Scat Air, S7 Airlines, เสิ่นเจิ้นแอร์ไลน์ส รองรับผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละประมาณ 35,000 – 40,000 คน

ปัจจุบันท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้ขยายและเพิ่มอาคารผู้โดยสารใหม่ ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 3 ล้านคนต่อปี

ดังนั้น การเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองจึงมีความสำคัญและช่วยเพิ่มศักยภาพให้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็น Hub ของการบินแห่งใหม่ของประเทศรองรับนโยบาย EEC ของรัฐบาล ที่สำคัญคือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารเดินทางได้สะดวก คล่องตัวทุกการเดินทาง