“นครชัยแอร์” ปรับโมเดลธุรกิจ ลงทุนมินิบัสเช่าเหมา-ผุดโรงแรม 3 ดาว

ต้องยอมรับความจริงว่าภาพรวมธุรกิจเดินรถทัวร์โดยสารชะลอตัวมากว่า 5 ปี ทั้งนั้นอาจเป็นผลมาจากธุรกิจประเภทเดียวกันเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เกิดการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ขณะเดียวกัน ยังต้องต่อสู้กับรถตู้สายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนดอกเห็ด, สายการบินต้นทุนต่ำ และในอนาคตคงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องสู้ศึกกับรถไฟความเร็วสูงอีกทางหนึ่ง

แต่กระนั้น ในความเชื่อของผู้ประกอบการธุรกิจเดินรถทัวร์โดยสารคงยังเชื่อว่าในธุรกิจดังกล่าวจะต้องดำเนินต่อไป ไม่มีความเป็นไปได้เลยว่าธุรกิจเดินรถโดยสารจะถูกกระแสของ digital disruptive จนทำให้ธุรกิจตาย หรือเลือนหายไป เพราะสังคมไทยส่วนใหญ่มีกลุ่มคนรากหญ้าจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ยังมีคนกลุ่มหนึ่งนิยมนั่งรถทัวร์โดยสาร เพียงแต่ความอยู่รอดในท่ามกลางธุรกิจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

ผู้ประกอบการจะต้องรู้จักนำกลยุทธ์การตลาด และโมเดลในการบริหารงานมาปรับใช้เพื่อความอยู่รอดด้วย ซึ่งหนึ่งในผู้ให้บริการรถทัวร์โดยสารแถวหน้าอันเป็นที่ยอมรับในคุณภาพของรถ และการบริการอย่าง “นครชัยแอร์” ก็มีการปรับตัวเช่นกัน

ทางหนึ่งเพื่อปรับปรุง และพัฒนาในธุรกิจเดิม ทางหนึ่งเพื่อต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ ๆ

“นครชัยแอร์” อ้อนรัฐช่วยผู้ประกอบการ

“เครือวัลย์ วงศ์รักมิตร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ถึงแม้นครชัยแอร์จะมีกำไรทุกปี แต่ต้องยอมรับว่าธุรกิจเดินรถมีกำไรไม่สูงมากนัก เพราะค่าโดยสารไม่สอดคล้องกับราคาน้ำมัน และค่าแรงที่สูงขึ้น

“โดยค่าโดยสารถูกกำหนด และควบคุมโดยภาครัฐ หลังจากมีการปรับลดราคาในปี 2558 ประมาณ 10% เพราะตอนนั้นราคาน้ำมันถูกลง ขณะที่ตอนนี้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ภาครัฐยังไม่มีการปรับราคาค่าโดยสารขึ้นตามสัดส่วน ซึ่งเราเองก็เข้าใจในจุดนี้ดีว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก รัฐบาลจึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชน”

“ซึ่งเราในฐานะผู้ประกอบการเองก็เห็นใจ และไม่อยากให้ราคาสูงไปกว่านี้เช่นกัน แต่ในสภาพแห่งความเป็นจริง เราอยากให้รัฐบาลออกมาตรการอะไรสักอย่างเพื่อช่วยผู้ประกอบการธุรกิจเดินรถให้อยู่รอดด้วย ยิ่งเฉพาะในเรื่องของการลดค่าชิ้นส่วนอะไหล่ ราคารถ ภาษี รวมถึงมีนโยบายสนับสนุนคุณภาพพนักงานในตลาดแรงงานส่วนนี้ด้วย”

เพิ่ม All Thai Taxi 200 คันปีนี้

หลังจากที่นครชัยแอร์ลงทุนกับ All Thai Taxi ไปกว่า 700 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวการให้บริการในปี 2558 ด้วยการชูจุดเด่นทางด้านการบริการ และความปลอดภัย ถึงตอนนี้ “เครือวัลย์” บอกว่า เราคืนทุนเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคิดว่าจะเริ่มทำกำไรได้ในปีนี้ โดยรถแต่ละคันสามารถทำรายได้ให้บริษัทตกปีละ 1 ล้านบาท

“การที่นครชัยแอร์หันมาเพิ่มธุรกิจรถแท็กซี่ เป็นเพราะเรามีความชำนาญเรื่องการเดินรถ รู้ว่าผู้บริโภคอยากได้อะไร และรู้ว่าปัญหาของแท็กซี่คืออะไร จึงต้องการอุดช่องโหว่ด้วยการคิดโมเดลรถแท็กซี่ โดยให้พนักงานขับรถมีรายได้มั่นคง เพราะรายได้เฉลี่ยของแต่ละคนตกประมาณเดือนละ 30,000 บาท

ซึ่งเป็นยอดเงินรวมของเงินเดือน และค่าพิเศษอื่น ๆ”

นอกจากนั้น ยังมีบริการรูปแบบให้เช่าขับ ซึ่งรายได้เฉลี่ยของผู้เช่าขับจะตกคนละประมาณ 3,000 บาทต่อวัน ถึงแม้จะเป็นระบบเช่าขับ แต่รถทุกคันจะติดตั้งอุปกรณ์ไอทีที่ทันสมัยเหมือนกัน เช่น ระบบ GPS tracking และระบบติดตามควบคุมรถ หรือกล่องดำ เพื่อควบคุมพฤติกรรมคนขับรถให้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด คิดค่าบริการตามมิเตอร์ปกติ รับลูกค้าทุกราย สามารถไปได้ทั่วประเทศตามอัตราค่าบริการของกรมการขนส่งทางบก

“ตอนนี้สัดส่วนของพนักงานขับรถ All Thai Taxi ระบบเงินเดือนกับระบบเช่าขับจะอยู่ที่ 30/70 และรูปแบบการเช่าขับจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะลูกค้านิยมใช้บริการ และผู้ขับเองก็ชอบ เพราะเวลารถเสีย บริษัทก็จะดูแลให้ ทั้งยังมีระบบการดูแลผู้เช่า และหาลูกค้าป้อนให้ด้วย เราจึงมีแผนทางการตลาดว่าในปีนี้จะเพิ่มรถแท็กซี่เพิ่มขึ้นอีก 200 คัน จากเดิมที่เคยมีอยู่เพียง 100 กว่าคัน”

ลงทุนเพิ่มมินิบัส-ป้อนลูกค้าเช่าเหมา

นอกจากนั้น บริการรถเช่าเหมาของนครชัยแอร์ยังได้รับความสนใจจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก เพราะคุณภาพของรถ พนักงานขับรถ และพนักงานบริการบนรถ เป็นที่ยอมรับเพียงแต่ที่ผ่านมานครชัยแอร์รองรับลูกค้าได้ไม่ถึง 5% ของคนที่ติดต่อเข้ามา

โดยเรื่องนี้ “เครือวัลย์” บอกว่า ต้องยอมรับความจริง เพราะรถเช่าเหมาของเรามีค่อนข้างน้อย ดังนั้น พอลูกค้าติดต่อเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เราจึงไม่สามารถให้การบริการได้ ครั้นจะตัดคิวจากรถที่วิ่งประจำทางมาบริการลูกค้าเช่าเหมา ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการเดินรถ บวกกับราคารถบัสขนาดใหญ่มีอัตราเช่าค่อนข้างสูง ไม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เดินทางเพียง 10-15 คน

“เราจึงลงทุนซื้อรถมินิบัส เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อมารับรองลูกค้ากลุ่มนี้ โดยปีแรกจะเริ่มทดลองที่ 4 คันก่อน และจริง ๆ แล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายนผ่านมาเราคิดว่าจะเปิดตัวรถมินิบัสใหม่

ของเรา แต่ตอนนี้คงต้องเลื่อนไปเปิดราวเดือนมิถุนายน 2562 เพราะเรารื้อตกแต่งรถใหม่ให้มีความสวยงามที่สุด ทั้งยังคิดว่าเราอาจจะเพิ่มจำนวนรถอีกด้วย”

ผุดโรงแรม 3 ดาวใกล้ศูนย์เดินรถ

สิ่งสำคัญไปกว่านั้น เพราะเป้าหมายของนครชัยแอร์ไม่ได้หยุดอยู่เฉพาะแค่การเดินรถเท่านั้น แต่ผู้บริหารยังมองเห็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจหลักด้วย เพราะปัจจุบันระบบโลจิสติกส์ค่อนข้างเติบโต ทั้งนั้นอาจเป็นผลมาจากการค้าขายออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การรับส่งพัสดุภัณฑ์ผ่านรถทัวร์เติบโตดี และมีกำไรขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผ่านมานครชัยแอร์มีรายได้จากตรงนี้เพิ่มขึ้นปีละ 2-3 ล้านบาท โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเลย เพราะมีรถวิ่งตามปกติอยู่แล้ว

ผลเช่นนี้ จึงทำให้ “เครือวัลย์” มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะปัจจุบันคนเดินทางมากขึ้น และใช่ว่าจะท่องเที่ยวแต่เมืองหลักเท่านั้น หากเมืองรองต่าง ๆ ก็เริ่มมีคนไปเที่ยวบ้างแล้ว จึงคิดว่าปกติเราก็มีศูนย์การเดินรถของนครชัยแอร์กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ หลายแห่ง ถ้าเราจะเปิดโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์การเดินรถของเราก็น่าจะเป็นไปได้

“เราจึงคิดทำโรงแรมระดับ 3 ดาว ขนาดประมาณ 50 ห้องนอน เน้นคุณภาพดี ราคาถูกตามสไตล์ของนครชัยแอร์ แต่จะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความประทับใจกับลูกค้าในราคาที่เอื้อมถึง โดยคิดราคา 500 บาทต่อคืน แผนการเพิ่มธุรกิจใหม่นี้

ส่วนหนึ่งเราต้องการหารายได้เพิ่มให้บริษัท ขณะเดียวกัน เราก็อยากสร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์นครชัยแอร์ เพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจรอีกด้วย”