เปิดเทอมใหญ่การจราจรเมืองกรุง-ภูธรวุ่น คมนาคมสั่งทุกหน่วยรับมือรถติดมาราธอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการ และมีนโยบายในการเตรียมพร้อมรับมือเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา 2561 ทยอยเปิดเรียนตั้งแต่ที่ 15 พฤษภาคม 2561 ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกและบริการอย่างพร้อมเพรียง

ตามแนวนโยบาย One Transport, One Family ที่เน้นความปลอดภัยให้กับเด็กและผู้ปกครอง ความเพียงพอของระบบขนส่งสาธารณะ และการอำนวยความสะดวกจราจรในโครงข่ายคมนาคมของกระทรวงคมนาคม โดยมอบหมายหน่วยงานดำเนินการ 8 มาตรการ

​1.ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพิ่มจำนวนรถและเที่ยววิ่งในเส้นทางที่ผ่านโรงเรียน สถานศึกษา ในวันธรรมดาจำนวน 21,928 เที่ยวต่อวัน และกำกับพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จอดเทียบป้ายและชิดฟุตบาท และดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารและเด็กนักเรียน

​2.กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดผู้ตรวจการคอยกำกับดูแลความเรียบร้อยในบริเวณป้ายรถประจำทางใหญ่ เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หมอชิต วงเวียนใหญ่ เป็นต้น รวมทั้งบริเวณโรงเรียน และสถานศึกษาที่มีการจราจรหนาแน่น และป้องกันไม่ให้รถแท็กซี่และจักรยานยนต์รับจ้างเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน และกวดขันความเร็ว จำนวนบรรทุก และความปลอดภัยของรถตู้ที่วิ่งระหว่างจังหวัด

​3.ในต่างจังหวัด ให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และสำนักงานขนส่งจังหวัด ร่วมกับตำรวจจราจรท้องที่อำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนในเขตเมืองและเทศบาลในเขตความรับผิดชอบเพื่อลดความคับคั่งของการจราจรโดยเฉพาะผู้ปกครองที่ขับรถมาส่งบุตรหลาน ทั้งนี้ในพื้นที่ถนนของแขวงทางหลวง แขวงทางหลวงชนบท ที่มีโรงเรียนตั้งอยู่ในเส้นทาง ให้เขตและแขวงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับโรงเรียนในการอำนวยความสะดวกการจราจรและความปลอดภัยแก่เด็กนักเรียน ทั้งนี้ให้พิจารณาโรงเรียนที่จะเข้าร่วมอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสมกับกำลังเจ้าหน้าที่ โดยให้เดินตาม “นโยบายถนนปลอดภัยหน้าโรงเรียน” อย่างเคร่งครัด

​4.ขบ. และสำนักงานขนส่งจังหวัด เข้มงวดรถโรงเรียนและรถรับจ้างเอกชนทุกประเภทให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง กฎจราจร อย่างเข้มงวด ทั้งจำนวนบรรทุก ความปลอดภัยของตัวรถ โดยเฉพาะจำนวนบรรทุกเด็กนักเรียนที่มากเกินจนอาจเกิดอันตราย และให้ระงับการใช้รถหากตรวจสภาพรถไม่ผ่าน โดยเฉพาะรถนักเรียนสองแถวทั้งรถกระบะและรถหกล้อ

​5.​การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) จัดเดินรถไฟฟ้าให้เพียงพอ และอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในชั่วโมงเร่งด่วน และให้คำแนะนำในการเดินทางของเด็กนักเรียนที่ยังไม่คุ้นเคยเส้นทางต่างๆ

ทั้งนี้ในส่วนของ รฟม.จัดระบบการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายคือ สายสีเขียว สายสีส้มตะวันออก สายสีชมพู สายสีเหลือง โดยให้ข้อมูลเส้นทางเบี่ยงการจราจรผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง โดยขอความร่วมมือสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุจราจรสำหรับ รฟฟท. ให้ตรวจเช็ครถทุกขบวนให้สามารถพร้อมให้บริการได้ครบ 7 ขบวนเพื่อรองรับจำนวนที่จะเพิ่มจากช่วงปิดเทอมอีกประมาณไม่น้อยกว่า 5,000 คน และเตรียมรับในช่วงเปิดเรียนของมหาวิทยาลัยในเดือนมิถุนายน

​6.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)ทล. ตำรวจทางหลวง ดูโครงข่ายทางด่วน มอเตอร์เวย์ ขาเข้าในช่วงเช้า ขาออกในช่วงเย็น ให้มีความคล่องตัวมากที่สุด รวมทั้งทางหลวงแผ่นดินในเมืองใหญ่ ทล. ทช. ดูถนนให้พร้อมใช้ ไม่ให้มีหลุมบ่อ และหากเกิดพายุฝนทำให้ต้นไม้โค่น ดินสไลด์ ให้แก้ไขซ่อมแซมให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ให้เป็นอุปสรรคของการเดินทางของเด็กนักเรียน

​7.กรมเจ้าท่า จัดผู้ตรวจการประจำท่าเรือทุกท่าเรือทั้งท่าเรือในกรุงเทพฯ ทั้งท่าเรือแม่น้ำและท่าเรือคลองแสนแสบ คลองลาดพร้าว และคลองอื่น ๆ รวมทั้งท่าเรือต่างจังหวัด โดยกำกับดูแลความปลอดภัยของเรือโดยสารไม่ให้บรรทุกผู้โดยสารเกินซึ่งจะมีเด็กนักเรียนเพิ่มเข้ามาอีกจำนวนมาก รวมทั้งความมั่นคงแข็งแรงของท่าเรือและโป๊ะเรือ รวมทั้งสำรองเรือโดยสารเพิ่มเติมในกรณีผู้โดยสารมีมากกว่าปกติ

​8.บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และกรมท่าอากาศยาน อำนวยความสะดวกการเดินทางของเด็กนักเรียนที่เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ โดยให้คำแนะนำสำหรับเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจจะยังไม่คุ้นเคยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร เป็นต้น