ทุนจีนผนึกมาเลเซียรุกคืบเมดิคัลฮับแข่งไทย เซ็น MOU 21 บริษัท หวังแจ้งเกิดเมกะโปรเจ็กต์เอกชน “ฟอร์เรสต์ ซิตี้”

ทุนจีนผนึกมาเลเซียรุกคืบเมดิคัลฮับแข่งไทย เซ็น MOU 21 บริษัท “รพ.ฝอซาน-แนชเวิร์ก-โฟกัสแอดเวนเจอร์-ไกลเค็นกรุ๊ป” หวังแจ้งเกิดเมกะโปรเจ็กต์เอกชน “ฟอร์เรสต์ ซิตี้” มูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพัฒนาโครงการ 3 ปี ล่าสุดเมกะโปรเจ็กต์แบรนด์ฟอร์เรสต์ ซิตี้ (Forest City) ที่รัฐยะโฮร์ เมืองโจฮอร์ ประเทศมาเลเซีย เมืองชายแดนระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ มีความพยายามผลักดันให้โครงการแจ้งเกิดให้ได้ โดยจัดพิธีลงนาม MOU กับ 21 บริษัทรายใหญ่ของจีนและมาเลเซีย เพื่อเข้ามาลงทุน 8 คลัสเตอร์ธุรกิจ โดยเฉพาะเมดิคัลฮับ โคเวิร์กกิ้งสเปซสำหรับสตาร์ตอัพ ธุรกิจไมซ์ เมืองท่องเที่ยวผจญภัย รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์รังนกใหญ่ที่สุดในโลก

@ เมกะโปรเจ็กต์เอกชน 3.5 ล้านล้านบาท

นาย BAIYUAN SU ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ การ์เด้น แปซิฟิควิว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน เปิดเผยว่า บริษัทเป็นเจ้าของโครงการฟอร์เรสต์ ซิตี้ ที่มีมูลค่าลงทุน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ได้บรรลุความสำเร็จในการดึงพันธมิตรธุรกิจเข้ามาลงทุนในโครงการ โดยเซ็นสัญญาข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 21 บริษัทรายใหญ่ ซึ่งมีผลทำให้โครงการนี้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและจากทั่วโลก

ดร.ยู รุนซี ผู้อำนวยการใหญ่สายงานกลยุทธ์ของคันทรี่ การ์เด้น แปซิฟิควิวกล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โครงการฟอเรสต์ ซิตี้ดำเนินงานตามแผนที่วางไว้มาโดยตลอด และมั่นใจว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้นในอนาคต

“คันทรี่ การ์เด้น แปซิฟิควิว เป็นบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ในประเทศจีน มีประสบการณ์พัฒนาโครงการ 25 ปีบริษัทเริ่มมองหาโอกาสลงทุนนอกประเทศเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลจีนที่ส่งเสริมให้ออกไปทำธุรกิจทั่วโลก เหตุผลที่เลือกลงทุนมาเลเซียเพราะมีประชากรจำนวนมาก พูดภาษาจีน ระยะทางไม่ไกลกันมาก ที่สำคัญความสัมพันธ์จีนกับมาเลเซียค่อนข้างมีความมั่นคง ความจริงศึกษาลู่ทางเป็นสิบปีแต่ดำเนินการก่อสร้างจริงเมื่อ 3 ปีหลังจากได้รับใบอนุญาตสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2557”

หลังจากพัฒนาโครงการ 3 ปี ล่าสุด เมกะโปรเจ็กต์แบรนด์ฟอร์เรสต์ ซิตี้ (Forest City) ที่รัฐยะโฮร์ เมืองโจฮอร์ ประเทศมาเลเซีย เมืองชายแดนระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ มีความพยายามผลักดันให้โครงการแจ้งเกิดให้ได้ โดยจัดพิธีลงนาม MOU กับ 21 บริษัทรายใหญ่ของจีนและมาเลเซีย เพื่อเข้ามาลงทุน 8 คลัสเตอร์ธุรกิจ โดยเฉพาะเมดิคัลฮับ โคเวิร์กกิ้งสเปซสำหรับสตาร์ตอัพ ธุรกิจไมซ์ เมืองท่องเที่ยวผจญภัย รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์รังนกใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ ยังมี พิธีเปิดตึกแลนด์มาร์ก สนามฟุตบอล สนามกอล์ฟ สุลต่านรัฐยะโฮร์ Tunku Ismail Ibni Hultan Ibrahim เป็นประธาน

โพสต์โดย Prachachat – ประชาชาติ บน 4 สิงหาคม 2017

รายละเอียดโครงการฟลอเรสต์ ซิตี้ เมืองอิสกานด้า รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเมืองชายแดนห่างจากประเทศสิงคโปร์เพียง 2 กม. มีมูลค่าการลงทุน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือ 3.5 ล้านล้านบาท

ตั้งเป้าพัฒนา 20 ปี เริ่มปี 2015-2035 ปัจจุบันพัฒนาเฟสแรก 40% หรือพัฒนา 1 เกาะจาก 4 เกาะ บนที่ดินแปลงมหญ่ ขนาด 30 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ดินถมทะเลหรือเคลมแลนด์ โดยมีหุ้นส่วนเป็นร้ฐบาลท้องถิ่นในนามบริษัท เอสพานาด ดุงก้า 88

จุดขายเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีพื้นที่อุตสาหกรรม รีเทล และที่อยู่อาศัย ซึ่งคอนโดและวิลล่าขายแบบฟรีโฮลด์ ลูกค้าต่างชาติสามารถซื้อได้เต็ม 100% ของจำนวนยูนิตในโครงการ

@ ปั้นเซ็นเตอร์อสังหา 8 คลัสเตอร์ธุรกิจ

โดยฟอเรสต์ซิตี้เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างคันทรีการ์เด้นและ Esplanade Danga 88 บริษัทสัญชาติมาเลเซียของรัฐบาลท้องถิ่นเมืองโจฮอร์ โครงการดังกล่าวมีแผนการลงทุนทั้งสิ้นเกือบ100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนาภายใต้แนวคิด ‘ผสมผสานธุรกิจเข้ากับชีวิตเมือง’ และ ‘นวัตกรรมสำรับชีวิตเมือง’

มีจุดโฟกัสดึงดูด 8 คลัสเตอร์กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวและการประชุมสัมมนา 2.ธุรกิจสุขภาพ 3.การศึกษา และการฝึกอบรม 4.สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค 5.ธุรกิจการเงิน 6.บริการด้านอีคอมเมิร์ซที่ดำเนินธุรกิจในอาเซียน 7.ศูนย์บริการและแอพพลิเคชั่นสำหรับเทคนิคใหม่ๆ และ 8.ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ

@ ดึงรพ.ฝอซานบูมเมดิคัลฮับแข่งไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทพันธมิตรธุรกิจที่น่าสนใจ อาทิ “โรงพยาบาล ฝอซาน” มีชื่อเสียงไม่ต่ำกว่า 61 ปีด้านการแพทย์แผนจีนในระดับโลก

“กลุ่มโฟกัส แอดเวนเจอร์” บริษัทตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ดำเนินธุรกิจด้านการออกแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

“ไกลเค็น กรุ๊ป” ซึ่งเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์รังนกใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขนาดความสูง 11,000 ตารางฟุต ตั้งอยู่ในยะโฮร์ และดำเนินการธุรกิจฟาร์มนกนางแอ่น ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพและการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ตามแบบที่ลูกค้าต้องการ

และ “กลุ่มแนชเวิร์ค (Nashwork)” ผู้ให้บริการโค-เวิร์คกิ้ง สเปซชั้นนำจากปักกิ่ง ซึ่งจะเป็นการลงทุนในต่างประเทศเป็นครั้งแรก มีฐานลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี 100,000 บริษัทในจีน เข้ามาลงทุนบริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสตาร์ทอัพ