
แม้เชียงรายจะไม่ใช่ทำเลที่เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการอย่างมากมายเหมือนจังหวัดอื่น ๆ แต่อุทกภัยในรอบ 80 ปีเป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อความห่วงใยให้กันและกันได้
นำมาสู่ปฏิบัติการภารกิจจิตอาสา No One Left Behind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร ภารกิจที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ด้วยคำเพียงคำเดียว “No One Left Behind” ก่อตัวขึ้นมาเป็นเครือข่ายแสนสิริ ร่วมมือกับพันธมิตรและจิตอาสาลงพื้นที่น้ำท่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน
โดยจัดไพรออริตี้ในการเดินหน้าเร่งด่วน #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร ต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ส่งต่อความห่วงใย ร่วมบริจาคเงิน 2 ล้านบาทผ่านสภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชาวเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง
รวมทั้งผนึกกำลังกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และพาร์ตเนอร์ภาคก่อสร้าง ตั้งศูนย์พักพิงเชียงราย เชียงใหม่ ระดมจิตอาลงพื้นที่ แพ็กถุงยังชีพ
แน่นอนว่าน้ำอาจจะเริ่มลดลง แต่ภารกิจส่งต่อความห่วงใยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น สเต็ปต่อไปจึงเป็นการเตรียมกระจายกำลังร่วม Big Cleaning พร้อมประเมินสถานการณ์ส่งทีมช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูขนานใหญ่หลังน้ำลด
อุทกภัยเชียงรายรอบ 80 ปี
โดย “สมัชชา พรหมศิริ” Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริมีความห่วงใย และเป็นห่วงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ จึงได้เปิดปฏิบัติการเร่งด่วน ในโครงการ No One Left Behind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร ต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ทั้งนี้ โปรเจ็กต์ No One Left Behind ได้ถูกริเริ่มโครงการขึ้นในปี 2563 เพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ทำให้มีประสบการณ์ส่งต่อความห่วงใยจากวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดของมนุษยชาติแล้ว
ล่าสุด เหตุการณ์น้ำท่วมในเชียงรายที่หนักที่สุดในรอบ 80 ปีครั้งนี้ แสนสิริจึงได้เร่งระดมกำลัง No One Left Behind ช่วยเหลือสังคมอีกครั้ง โดยจัดทีมพนักงานทำงานพิเศษลงพื้นที่เชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกับทีมพลัส พร็อพเพอร์ตี้ (บริษัทลูกของแสนสิริ)
รวมทั้งได้มอบเงินบริจาคจำนวน 2,000,000 บาท ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อเข้าบัญชีเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของสภากาชาดไทยอีกด้วย
ระดมศูนย์พักพิง-ถุงยังชีพ
จิ๊กซอว์สำคัญของโปรเจ็กต์จิตอาสารอบนี้ ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงระดมพลช่วยเหลือด่วนในพื้นที่ และละแวกใกล้เคียง นำร่องที่เชียงใหม่ (ดี คอนโด พิงค์) และเชียงราย โดยร่วมสนับสนุนกับทางมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย สาขาเชียงราย
ซึ่งในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา (14-15 กันยายน 2567) ได้มีการจัดทำถุงยังชีพพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคที่ศูนย์พักพิงเชียงใหม่ เพื่อนำส่งต่อไปยังผู้ที่รับผลกระทบในพื้นที่เชียงราย โดยมีพี่น้องในบริเวณใกล้เคียง และลูกบ้านแสนสิริร่วมนำของมาบริจาค
ภารกิจต่อจากนี้ จะมีการลงพื้นที่กับมูลนิธิศุภนิมิตฯ เวียงชัย เพื่อสำรวจพื้นที่ และติดตามสถานการณ์ในจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงการเข้าร่วมทำความสะอาด หรือ Big Cleaning ต่อไป
“เราเชื่อว่าไม่มีใครคาดฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงครั้งนี้ขึ้น โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ที่เผชิญอุทกภัยน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 80 ปี แสนสิริจึงไม่สามารถเพิกเฉยได้ ในภาวะยากลำบากเช่นนี้จะต้องไม่มีใครถูกลืม ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของเราในการช่วยเหลือผู้คนทุกกลุ่มที่กำลังเดือดร้อนอยู่ แสนสิริเราเชื่อมั่นในพลังของการช่วยเหลือและการเป็นกำลังใจให้กันในยามยาก”
รวมทั้ง “ต้องขอขอบคุณคู่ค้า พันธมิตร สภากาชาดไทย มูลนิธิศุภนิมิตฯ กลุ่มลูกบ้านแสนสิริ และทุกภาคส่วนที่เป็นฟันเฟืองในการทำงาน ระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และสุดกำลัง”
สเต็ปต่อไป “Big Cleaning”
นอกจากนี้ แสนสิริและเครือข่ายพันธมิตร ยังได้ติดตามสถานการณ์จากกลุ่มจิตอาสาที่ลงพื้นที่ เพื่อประเมินความช่วยเหลือในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งจุดรับบริจาคที่สำนักงานใหญ่ สิริแคมปัส และพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์พักพิงที่เชียงใหม่ เชียงราย
ตลอดจนการช่วยเหลือหลังเหตุการณ์คลี่คลาย โดยเชิญชวนพนักงาน และลูกบ้านบริจาคเงินเพื่อฟื้นฟูหลังน้ำท่วม และร่วม Big Cleaning เป็นต้น
หนึ่งในแกนหลักในการทำงานของแสนสิริ คือการดูแล 4 เสาหลัก ประกอบด้วย “ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า และสังคม”
“เรามุ่งหวังที่จะสร้างสังคมที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความปลอดภัยในชีวิต ปัจจุบันโครงการ No One Left Behind ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสะพานเชื่อมความร่วมมือจากส่วนต่าง ๆ ที่พร้อมปฏิบัติการเพื่อสังคมในภาวะวิกฤตระดับชาติต่อไป” คำกล่าวของ Chief of Staff ของแสนสิริ