กทพ.จุก เวนคืนไร่ละ200ล้าน ตัดทางด่วน “กะทู้-ป่าตอง” งบบาน

ตัดทางด่วนภูเก็ต “กะทู้-ป่าตอง” ราคาพุ่ง 1.4 หมื่นล้านบาท กทพ.จุกค่าที่เวนคืนแพง ไร่ละ 100-200 ล้าน เพิ่มเท่าตัวทะลุ 5 พันล้าน รัฐตั้งเป้าลงทุน PPP เปิดทางเอกชนรับสัมปทาน 30 ปี ลุยก่อสร้างแก้วิกฤตจราจรเมืองท่องเที่ยว ก.ย.นี้ลุ้น EIA ผ่าน ตอกเข็มปลายปีหน้า

พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้จัดทำรายละเอียดโครงการทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กม. เสร็จเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดวงเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 8,730 ล้านบาท เป็น 13,916.97 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าเวนคืนที่ดิน 5,685.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,485.91 ล้านบาท จากเดิมเคยประเมินไว้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 8,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,931 ล้านบาท จากเดิม 6,300 ล้านบาท

ที่ดินภูเก็ตแพง 100 ล้าน/ไร่

เนื่องจากราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก ทั้งราคาซื้อขายและราคาประเมินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ
หาดป่าตองที่ราคาที่ดินอยู่ที่ไร่ละกว่า 100 ล้านบาท จึงทำให้ค่าเวนคืนที่ดินเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ซึ่งโครงการนี้มีการเริ่มศึกษาโครงการตั้งแต่ปี 2555 แต่ปัจจุบันสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จึงทำให้ต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้น

“ยอดเวนคืนไม่เยอะ แต่แพง แต่โครงการมีความเหมาะสมในการลงทุน เพราะให้ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจสูงกว่า 20% รัฐมองว่ามีความคุ้มค่า จึงจัดลำดับความสำคัญของโครงการไว้ในแผนเร่งด่วนปี 2560 และให้เอกชนลงทุน PPP ทั้งก่อสร้างและเก็บค่าผ่านทาง อยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการ PPP”

พล.อ.วิวรรธน์กล่าวว่า สำหรับการลงทุนจะเปิดกว้างให้ทั้งนักลงทุนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลที่รวมตัวกันหาเอกชนมาดำเนินการ หรือผู้ประกอบการจากส่วนกลางที่มีประสบการณ์สร้างทางด่วน เช่น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือบีอีเอ็ม หรือ บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง หรือโทลล์เวย์

ปลายปีหน้าตอกเข็มโครงการ

“ทางด่วนเส้นทางนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกในการเดินทางประชาชน ไม่ต้องเดินทางผ่านถนนสาย 4029 หรือถนนพระบารมี ที่มีความชันและทางโค้งจำนวนมาก อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการเดินทางถึง 20 นาที จากเดิมใช้เวลาประมาณ 30 นาที และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับกะทู้อีกด้วย”

สำหรับแผนงานก่อสร้าง จะปรับแผนการก่อสร้างให้เริ่มได้ภายในปลายปี 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จะผ่านการพิจารณาใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งต้นปี 2561 จะเริ่มขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2556

เวนคืน 193 แปลง บ้าน 222 หลัง

แหล่งข่าวจาก กทพ.กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้ค่าเวนคืนเพิ่ม เนื่องจากราคาที่ดินหาดป่าตองสูงมาก ปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ที่ไร่ละ 200 ล้านบาท ซึ่งค่าเวนคืน 5,685 ล้านบาท จะจ่ายให้ผู้ถูกเวนคืนมีที่ดิน 193 แปลง วงเงิน 4,693.24 ล้านบาท และสิ่งปลูกสร้าง 222 หลังคาเรือน วงเงิน 992.64 ล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินหาดป่าตองแพง ปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ที่ไร่ละ 200 ล้านบาท

รออีไอเอผ่าน ก.ย.นี้

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สถานะของโครงการขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) อนุมัติรายงานอีไอเอ คาดว่าจะได้รับ

ความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติภายในเดือน ก.ย.นี้ จากนั้นเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนฯ 2556 ใช้เวลาดำเนินการระหว่างปี 2560-เม.ย. 2561

และตั้งแต่เดือน พ.ค. 2561 จะเริ่มคัดเลือกเอกชนลงทุนโครงการ คาดว่าจะได้เอกชนมาก่อสร้างโครงการและเสนอผลคัดเลือกให้ ครม.อนุมัติเดือน ก.พ. 2563 ส่วนการเวนคืนที่ดินจะเริ่มในเดือน พ.ย. 2561-เม.ย. 2563 และก่อสร้างเดือน พ.ค. 2563 จะใช้เวลาดำเนินการ 4 ปี ตามแผนจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือน พ.ค. 2567

“ทางด่วนสายนี้จะเป็นโครงการแรกของ กทพ.ที่ลงทุนในต่างจังหวัด จะเก็บค่าผ่านทางสำหรับรถจักรยานยนต์ 15 บาท รถ 4 ล้อ 45 บาท รถ 6-10 ล้อ 85 บาท และมากกว่า 10 ล้อ 130 บาท คาดว่าปริมาณจราจรในปี 2567 เป็นปีแรกเปิดใช้ รถจักรยานยนต์อยู่ที่ 28,488 คันต่อวัน รถยนต์ 24,216 คันต่อวัน”

เจาะเขาสร้างอุโมงค์ แนวเส้นทางเริ่มต้นจากถนนตามผังเมืองรวมสาย ก. ในพื้นที่ชุมชนป่าตองและชุมชนกะรน ต.ป่าตอง มุ่งไปทางทิศตะวันออก บริเวณถนนพระเมตตา สร้างเป็นทางยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณี ถึงเขานาคเกิด ระยะทาง 0.9 กม.

จากนั้นจะสร้างเป็นอุโมงค์ระยะทาง 1.85 กม. ลอดใต้เทือกเขานาคเกิด และทางยกระดับ ระยะทาง 1.23 กม. ไปยัง ต.กะทู้ ผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง จนบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 (ถนนพระบารมี)สร้างเป็นทางด่วนขนาด 8 ช่องจราจร หรือไป-กลับ 4 ช่องจราจร สำหรับให้รถยนต์วิ่ง 2 ช่องจราจร และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจร ในบริเวณจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการ จะก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับ พร้อมติดตั้งระบบเก็บเงินค่าผ่านทางเพื่อลดปัญหาการจราจร และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทาง

เสริมแกร่งท่องเที่ยวกะทู้-ป่าตอง

ประโยชน์ของโครงการจะเชื่อมโยงการเดินทางจาก อ.กะทู้ ไปยังหาดป่าตอง อำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต จากสถิติเมื่อปี 2558 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยว 13.37 ล้านคนต่อปี รายได้จากการท่องเที่ยว 326,100 ล้านบาทต่อปี และช่วยแก้ปัญหาจราจร ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนถนน 4029 เป็นทางลาดขึ้นเขา ประหยัดเวลาการเดินทางจากตัวเมืองไปยังชายหาดป่าตอง รองรับการพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ เชื่อมโยงการพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยรวม

ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บจ.โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ กล่าวว่า ราคาซื้อขายที่ดิน จ.ภูเก็ต มีการปรับตัวสูงขึ้น ในฝั่งกะทู้มีการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 10 ล้านบาท ขณะที่ฝั่งป่าตองเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 50 ล้านบาท