ORN โชว์งบ Q4/67 กวาดรายได้อสังหาฯ 545 ล้าน ยอดขายรอโอนท่วม 1,775 ล้าน

ORN เผยผลงานไตรมาส 4/67 ทำรายได้ 545 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาทโต 476% เทียบกับไตรมาส 4/66 ดันผลงานทั้งปี 2567 รายได้รวม 1,362 ล้านบาท กำไรสุทธิ 140 ล้านบาท โชว์ยอดขายรอโอน(แบ็กลอก) 1,772 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ไตรมาส 1/68 เตรียมเคาะจ่ายปันผลหุ้นละ 0.02 บาท

นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 มีรายได้รวม 545 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 210 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 159 % มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 476 %

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาส 4/67 เป็นผลจากความสำเร็จของการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงชะลอตัว โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติ และกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างครอบคลุม

รวมทั้งมีปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาฯ ช่วยกระตุ้นยอดขายโครงการแนวราบ-แนวสูงเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ คอนโดฯ แอสตร้า สกายริเวอร์ ,อะไรซ์ เจริญเมือง , อะไรซ์ ไวบ์ ภูเก็ต และ อะไรซ์ ฮิลล์ เชียงใหม่ โครงการบ้านแนวราบแบรนด์ ฮาบิแทท รวมโชค, บีลีฟ วงแหวน-สันกำแพง โดยบริษัทมีสัดส่วนฐานลูกค้าหลัก แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทย 53% และชาวต่างชาติ 47 %

สำหรับผลประกอบการงวดปี 2567 มีรายได้รวม 1,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,111 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 140ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท

“มั่นใจว่าการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัท จะช่วยผลักดันยอดขายในโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการขายทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต ให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี และมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog รอรับรู้รายได้อยู่ที่ 1,772 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป”นายปรีดิกร กล่าว

ADVERTISMENT

ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.02 บาทต่อหุ้น รวมเป็นปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ที่ 21.34 % ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย ซึ่งการจ่ายปันผลลดลงจากปีก่อน เพื่อสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายโครงการใหม่ และลงทุนในธุรกิจของบริษัทย่อยเพื่อสร้างรายได้ประจำ โดยมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 วันที่ 24 เมษายน 2568 เพื่อพิจารณาต่อไป

ADVERTISMENT