เอสซีจี ร่วมกับ FPT คว้ามาตรฐาน LEED for Homes ระดับโกลด์ ที่แรกในอาเซียน

เอสซีจี ร่วมกับ FPT คว้ามาตรฐาน LEED for Homes (v4.1 Residential Single Family) ระดับ Gold บ้านเดี่ยวต้นแบบแห่งความยั่งยืน เป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จาก U.S. Green Building Council® (USGBC®)

นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ในเครือ SCG เปิดเผยว่า SCG ร่วมแสดงความยินดีกับ นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ฝ่ายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ในโอกาสที่โครงการเดอะ แกรนด์ ริเวอร์ฟรอนท์ ราชพฤกษ์-พระราม 5 คว้ามาตรฐาน LEED for Homes (v4.1 Residential Single Family) ระดับ Gold บ้านเดี่ยวต้นแบบแห่งความยั่งยืน เป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จาก U.S. Green Building Council® (USGBC®) ภายใต้ผลงานทีมที่ปรึกษาอาคารจาก เอสซีจี บิลดิ้ง แอนด์ ลีฟวิ่งแคร์ คอนซัลติ้ง

“เอสซีจี มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาอาคารเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยทีมงานเอสซีจีมีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษา ด้านมาตรฐานอาคารเขียวและการพัฒนา net zero building มาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเอสซีจีมีผู้เชี่ยวชาญ LEED GREEN RATER คนแรกและคนเดียวในประเทศไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบอาคารให้ผ่านเกณฑ์ที่ LEED กำหนดได้

“การที่โครงการ THE GRAND Riverfront Ratchapruek-Rama 5 ได้รับการรับรอง LEED เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของโครงการที่ให้ความสำคัญ ทั้งด้านการสร้างสุขภาวะที่ดี ในการพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัย และยังใส่ใจต่อคุณภาพของสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน” นายดุสิตกล่าว

สาระสำคัญตามมาตรฐานอาคาร LEED ที่ทำให้โครงการ THE GRAND Riverfront Ratchapruek-Rama 5 โดดเด่น ประกอบด้วย 3 ด้าน ดังนี้

ADVERTISMENT

1.ด้านพลังงาน พบว่ามีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่าบ้านทั่วไปกว่า 75% จากการเลือกใช้ระบบปรับอากาศ, วัสดุกรอบอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง รวมไปถึงติดตั้งแผงโซลาร์ เพื่อใช้พลังงานทดแทน สามารถประหยัดพลังงานได้ ประมาณ 14,000 kWh ต่อปี ลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 5,700 กิโลกรัมต่อปี

2.ด้านคุณภาพสภาวะแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environmental Quality-IEQ) มีการใช้ระบบระบายอากาศแบบ ERV (Energy Recovery Ventilation) นำอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่บ้าน และระบายอากาศเสียออก และมีการกรองอากาศด้วยแผ่นกรอง MERV 16 กำจัดฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 99.7% รวมไปถึงระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ แสดงข้อมูลคุณภาพอากาศ และระดับสารมลพิษภายในบ้าน

ADVERTISMENT

3.ด้านประสิทธิภาพการใช้น้ำ มีการเลือกใช้ สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง ปลูกพืชพรรณท้องถิ่นและพืชที่ปรับตัว เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เพื่อลดการใช้น้ำและลดภาระ การดูแลรักษาของเจ้าของบ้าน จากมาตรการประหยัดน้ำ จึงช่วยลดการใช้น้ำได้มากกว่า 22% คิดเป็นประมาณ 164,567 ลิตรต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 1,750 กิโลกรัมต่อปี

ทั้งนี้ บริษัท SCG Building and Living Care Consulting จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาการพัฒนาอาคารเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ที่ให้บริการด้านอาคารเขียว อาคารประหยัดพลังงาน และอาคารเพื่อสุขภาวะที่ดี มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นบริษัทเดียวในไทยที่ได้รับการรับรอง LEED Proven Provider จากองค์กร U.S. Green Building Council ที่มีประสบการณ์และผลงาน ด้านอาคารเพื่อความยั่งยืน มาแล้วมากกว่า 200 โครงการ