
เพจเฟซบุ๊กชื่อดังด้านอสังหาฯ เผย เตรียมหารือผู้บริหารสัปดาห์หน้า เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหา กรณีปล่อยเช่าคอนโดฯ รายวัน พร้อมเสนอวิธีแก้ระยะสั้นและระยะยาว
แม้คลิปวิดีโอชายชาวต่างชาติใช้ถังดับเพลิงทุบประตูห้องในคอนโดฯ แห่งหนึ่งจะถูกเผยแพร่ออกมาระยะเวลาเกือบสัปดาห์ แต่ก็ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องมา ด้วยสังคมออนไลน์สืบเสาะหาสถานที่เกิดเหตุ ตัวตนของผู้ก่อความวุ่นวาย และคนไทยที่เดือดร้อน ประกอบกับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ออกมาชี้แจงและให้ความรู้มากมาย
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เพจเฟซบุ๊ก พ่อบ้านบ้าคอนโด ที่ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ทุกอย่างเกินความควบคุม ! “ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน” ทางลุมพินี LPN, LPP และตำรวจต้องร่วมเข้ามาจัดการแล้วครับ เดี๋ยวจะขออนุญาต โทร.หาผู้บริหาร LPN นะครับ” สำหรับปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยภายใต้การปล่อยเช่าคอนโดฯ รายวัน ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547
จากโพสต์ดังกล่าวทำให้โลกออนไลน์พูดถึงเรื่องนี้กันอีกครั้ง และล่าสุดบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) และบริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ได้ออกประกาศผ่านเฟซบุ๊ก LPN Connect ข้อความว่า
“LPN และ LPP ไม่สนับสนุนการปล่อยเช่ารายวันทุกกรณี เรายึดมั่นหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ และมีมาตรการควบคุม ดูแล ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมมาโดยตลอด เรายินดีที่จะร่วมสนับสนุนทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างสังคมน่าอยู่”
แต่ดูท่าว่าจะไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อทางเพจพ่อบ้านบ้าอสังหา ได้โพสต์ข้อความหลังจากนั้นว่า กลุ่มบล็อกเกอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์จะเข้าพบผู้บริหาร และจะมาอัพเดตมาตราการช่วยเหลือลูกบ้านในคอนโดฯ ที่ได้รับความเดือดร้อน และอยากให้ทุกคนยอมรับว่า การทำงานของนิติบุคคลตอนนี้อยู่ในช่วงวิกฤตที่ต้องแบกรับปัญหาเกินขอบเขตหน้าที่
เขาจึงเสนอวิธีแก้ระยะสั้น คือ ให้ทางผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้าช่วยเหลือโครงการที่มีปัญหาหนักก่อน ส่วนระยะยาวคือ การนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การแก้ไขข้อกฎหมาย ข้อความระบุว่า
“LPN และ LPP ออกแถลงแล้วนะครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าทางกลุ่ม Blogger อสังหาทั้งหมด จะมี session เข้าพบผู้บริหารครับ แล้วจะรีบนำมาอัพเดตมาตรการเร่งด่วนที่จะช่วยเหลือลูกบ้าน ที่เพชรบุรีมักกะสัน….เราต้องยอมรับความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่า ทุกวันนี้นิติบุคคลทำงานเชิงรับมากกว่าเชิงรุก และแค่งานประจำ หรืองานแยกพัสดุ ยิ่งช่วงลูกบ้านสั่งของกระหน่ำ 1/1 2/2 3/3 ก็หมดเวลาทำงานแล้ว
ทุกคนแค่อยากทำงานให้จบแล้วกลับบ้านเหมือนทุกอาชีพ ไม่อยากมีใครเป็นหนังหน้าไฟ ทุ่มเทรับหน้าเพื่อลูกบ้าน เพราะทำดีก็เสมอตัว ทำผิดก็โดนด่า ลูกบ้านบางท่านก็ชอบใช้อารมณ์ใส่ ถืออำนาจบาตรใหญ่ในความเป็นเจ้าของ ข่มเจ้าหน้าที่นิติ ยิ่งเจ้าของหรือผู้เช่าเป็นต่างชาติ ก็ยิ่งสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง
ช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้คำแนะนำของผมในการแก้ปัญหาระยะสั้นก่อนคือการให้ทาง developer ทุกที่ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นมาช่วยเหลือโครงการที่มีปัญหาหนักด้วยการนำบุคลากรที่มีความเข้มข้นและเข้มงวดประจำอยู่หน้าตึกตรวจสอบการเข้าออก โดยเฉพาะคนที่ลากกระเป๋ามา ประสานกับตำรวจทันที เพื่อดักจับคนปล่อยเช่ารายวัน
และการแก้ปัญหาระยะยาวคือการนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การแก้กฎหมาย ในการไม่ให้ต่างชาติมีอำนาจขึ้นมาในการบริหารอาคารเด็ดขาด”