
ร้อนแรงในช่วงโค้งท้ายไตรมาส 1/68 ค่ายแสนสิริเปิดตัว 3 คอนโดมิเนียมหรู มูลค่าสูงถึง 22,000 ล้านบาท
เราเห็นมูลค่าโครงการรวม 22,000 ล้านบาท จำนวนเพียง 3 โครงการ เฉลี่ยโครงการละ 7,000 กว่าล้านบาท ฟันธงได้เลยว่าทาร์เก็ตเซ็กเมนต์เป็นโครงการซูเปอร์ลักเซอรี่
พัฒนาบนทำเลแรร์ไอเท็ม 3 ทำเล “สารสิน-ชิดลม-สุขุมวิท 51” มีสถิติยืนยันเป็นที่สุดทำเลที่ราคาที่ดินเติบโตสูงสุด 400% ภายในรอบ 10 ปี
สารสินเทียบนิวยอร์ก-ลอนดอน
โดย “อุทัย อุทัยแสงสุข” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริเดินหน้าพัฒนา 3 ไอคอนิกซูเปอร์ลักเซอรี่คอนโดฯใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ งานคราฟต์บน 3 ที่สุดทำเล “สารสิน-ชิดลม-สุขุมวิท 51”
คราฟต์ความเป็น The Best ที่สุดในทุกมิติ ด้วยประสบการณ์ 40 ปี ในฐานะ Luxury & Design Leader ที่เข้าใจรสนิยมลูกค้ากลุ่ม HNWIs (High Net Worth Individual หมายถึงลูกค้าที่มีทรัพย์สิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 33-34 ล้านบาท) เพื่อส่งมอบที่สุดของการอยู่อาศัย
โดยทั้ง 3 โปรเจ็กต์อยู่ระหว่างการพัฒนาและศึกษา มาตรฐานคุณภาพ-การออกแบบระดับเวิลด์คลาส-ความพิถีพิถันทุกรายละเอียด-ประสบการณ์การอยู่อาศัยพร้อมบริการเอ็กซ์คลูซีฟ โครงการที่สุขุมวิท 51 ผ่านอนุมัติ EIA แล้ว คาดสร้างเสร็จปี 2570 เป็นต้นไป
ไฮไลต์เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้งกับแฟลกชิปคอนโดฯย่านสารสิน กับวิว Billionaires’ Row สวนลุมพินี เทียบชั้นกับย่าน Central Park และ Hyde Park ที่มูลค่าที่ดินสูงสุดในนิวยอร์กและลอนดอน
ลักเซอรี่คอลเล็กชั่น 3.8 หมื่นล้าน
“แสนสิริ เห็นโอกาสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ลักเซอรี่ที่มี Dynamic ในการเติบโตต่อเนื่องจากกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้า HNWIs ที่มีไลฟ์สไตล์เอกลักษณ์ แสวงหาที่สุดของการอยู่อาศัย และสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม
ตลอดจนประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแสนสิริ ที่ฝังลึกอยู่ใน DNA ด้านการพัฒนาโครงการซูเปอร์ลักเซอรี่และลักเซอรี่กว่า 40 ปี ทำให้ทุกโครงการของแสนสิริประสบความสำเร็จ และสามารถปิดการขายได้รวดเร็วแม้ลูกค้ายังไม่เข้าชมโครงการ”
ปัจจุบันพอร์ตโครงการภายใต้ Sansiri Luxury Collection รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 38,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในคุณค่าแบรนด์แสนสิริ ความพิถีพิถันในการพัฒนาที่อยู่อาศัยตอบโจทย์รสนิยม ทั้งมาตรฐานคุณภาพ งานดีไซน์ระดับเวิลด์คลาส และบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดเฉพาะบุคคลตั้งแต่วันแรกที่พบลูกค้า
ความภาคภูมิใจลูกค้าที่ได้ถือครอง
เรื่องใหม่กับความท้าทายครั้งใหม่ในปี 2568 ปั้น 3 ไอคอนิกที่เป็นโปรเจ็กต์ระดับเวิลด์คลาส โดยแสนสิริ ท้าทายวงการอสังหาฯไทยอีกครั้ง พัฒนาโครงการที่เป็นที่สุดในทุกมิติพร้อมกันถึง 3 โครงการ เตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในไทยและในระดับเอเชีย กับ 3 ไอคอนิก ซูเปอร์ลักเซอรี่คอนโดมิเนียม รวมมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท
“เราใช้เวลาเฟ้นหาที่ดินที่แทบหาไม่ได้อีกแล้วในย่านศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพฯ อย่างสารสิน-ชิดลม-สุขุมวิท 51 ทำเลศักยภาพสูงสุด ราคาที่ดินสูงสุดในไทยเวลานี้ มั่นใจว่าทุกโปรเจ็กต์ คือ ที่สุดของงานคราฟต์ และเป็นความภาคภูมิใจของลูกค้าที่ได้ถือครอง”
ความคืบหน้าล่าสุด “โครงการย่านสุขุมวิท 51” ผ่านการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว บริษัทเตรียมพร้อมเดินหน้าก่อสร้างเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งโครงการซูเปอร์ลักเซอรี่คอนโดมิเนียม ทำเลติดถนนสุขุมวิท ทำเลแรร์ไอเท็ม ห้องชุดก็แรร์ไอเท็มจำนวนจำกัดเพียง 11 ยูนิต
และเซอร์ไพรส์บนที่ดินสามเหลี่ยมรูปทรงพิเศษ ท้าทายวงการอสังหาฯลักเซอรี่ไทย หนึ่งเดียวกับที่สุดของไอคอนิกเรซิเดนต์ใหม่ ในย่านทองหล่อ-เอกมัย ตามแผนคาดว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จในปี 2570 เป็นต้นไป โดยทั้ง 3 โปรเจ็กต์อยู่ระหว่างการพัฒนาและศึกษา เพื่อคราฟต์ความเป็น The Best ที่สุดในทุกมิติ
ภารกิจผู้นำที่จะต้องเดินนำ 1 ก้าวเสมอ ภายในไตรมาส 2/68 นี้ แสนสิริเตรียมเผยโฉม 2 โครงการลักเซอรี่ใหม่ต่อทันที ตอกย้ำความเป็น Best-in-Class ได้แก่ “VIA 34” ลักเซอรี่คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ ทำเลใจกลางย่านสุขุมวิท และ “Narasiri Bangna Km.10” บ้านเดี่ยวระดับลักเซอรี่โครงการแรกของปีนี้ อยู่ภายในคอมมิวนิตี้ Sansiri 10 EAST
2568 ปักธง Dynamic Growth
ทั้งนี้ ปี 2567 ที่ผ่านมา ครบรอบ 40 ปีของแสนสิริ ที่มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเปราะบาง ขณะที่แสนสิริยังคงมีอัตราเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง สร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่น การรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ
ส่งผลให้แสนสิริประสบความสำเร็จ ด้วยยอดขายรวมถึง 50,000 ล้านบาท และยอดโอน (รวมโครงการร่วมทุน) จำนวน 43,700 ล้านบาท สามารถ Sold Out ได้มากถึง 25 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท จากการเพิ่มสัดส่วนการเปิดตัวโครงการ โดยเฉพาะโครงการบ้านแนวราบ รวมทั้งการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับสูง
สำหรับเป้าหมายที่มีไว้พุ่งชนในปี 2568 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทาย โดยเฉพาะภาคอสังหาฯ ที่มีแชลเลนจ์ในหลากหลายด้าน สำหรับแสนสิริในฐานะรายใหญ่และเป็นเจ้าตลาด เราขอร่วมขับเคลื่อนตลาด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม ผ่านแผนธุรกิจปี 2568 ภายใต้แนวคิด Dynamic Growth เติบโตแข็งแกร่ง
บริษัทประกาศแผนธุรกิจ เปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 52,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 53,000 ล้านบาท เป้าหมายยอดโอน 46,000 ล้านบาท