
คอลลิเออร์ส ไทย เผยปรากฎการณ์แผ่นดินไหว สะเทือนตลาดคอนโดมิเนียมเมืองกรุงมูลค่ากว่า 458,390 ล้านบาท แนะรัฐบาลต้องเร่งเสริมมาตรฐานความปลอดภัยและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและสื่อสารองค์กร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา และมีความลึก 10 กิโลเมตร
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่สามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งที่รุนแรงที่สุด ซึ่งประชาชนในหลายเขตสามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้อย่างชัดเจน
และเกิดความเสียหายที่สำคัญ โดยเฉพาะในกรณีของตึกสูงแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับตลาดนัดจตุจักร ซึ่งในขณะนั้นอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และได้พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ทั้งนี้ อาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ ทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และโรงแรม ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างรุนแรง
โดยเกิดการพังทลายและความเสียหายทั้งในส่วนโครงสร้างและงานตกแต่งภายใน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความวิตกกังวลอย่างมากต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของอาคารสูงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
”อาฟเตอร์ช็อก” เด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว
แผนกวิจัยและการสื่อสารของคอลลิเออร์ส ประเทศไทย มีข้อกังวลว่า ผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อกของแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด อาจส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศไทย
โดยเฉพาะในภาคของตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งอาจได้รับผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของโครงสร้างอาคาร และความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในอาคารสูง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน การประกาศผ่อนปรนมาตรการ LTV (Loan-to-Value) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568-30 มิถุนายน 2569 เป็นระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน ถือเป็นสัญญาณบวกที่สามารถกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดคอนโดมิเนียม หลังจากการประกาศผ่อนปรนดังกล่าว ภาพรวมซัพพลายการเปิดขายใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 1/68 มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน
โดยพบว่ามีอุปทานเปิดขายใหม่รวม 5,509 ยูนิต ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 67.54% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 23,850 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกและสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลกระทบยืดเยื้อ อาจทำให้การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ และเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในระยะต่อไป
ซัพพลายคอนโดหนาวๆ ร้อนๆ “รอขาย” 4.58 แสนล้านบาท
แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย มองว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น คาดว่าจะเป็นปัจจัยลบสำคัญที่มีผลกระทบต่อภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครในปี 2568 นี้
อัพเดตสถิติในสถานการณ์ที่มีซัพพลายรอการขายในตลาดคอนโดมิเนียมสูงถึงกว่า 458,390 ล้านบาท การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความมั่นคงของโครงสร้างอาคาร
โดยเฉพาะในอาคารสูงที่มีโครงสร้างซับซ้อน และต้องรับมือกับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายทั้งในส่วนของโครงสร้างและระบบต่างๆ ภายในอาคาร เหตุการณ์นี้จึงสร้างความไม่มั่นใจในคุณภาพการก่อสร้างและความปลอดภัยของอาคารคอนโดมิเนียมในอนาคต
8.2 แมกนิจูดเอฟเฟกต์ “ผู้บริโภคตั้งการ์ดสูง-ชะลอตัดสินใจ”
ส่งผลให้บางกลุ่มลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมอาจชะลอการตัดสินใจออกไป เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์และความถี่ของแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
นอกจากนี้ ผู้บริโภคอาจจะระมัดระวังในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมที่มีความสูงมากขึ้น ซึ่งจะต้องคำนึงถึงมาตรการในการออกแบบและก่อสร้าง ที่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความวิตกกังวลนี้อาจจะยืดเยื้อ และส่งผลให้การขายคอนโดมิเนียมในปีนี้ดำเนินไปได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมที่ยังมีสินค้าคงค้างอยู่จำนวนมาก
นอกจากนี้ ความไม่มั่นใจในคุณภาพของอาคารหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาจทำให้ผู้บริโภคต้องพิจารณาปัจจัยด้านความปลอดภัย และคุณภาพการก่อสร้างเป็นหลักมากขึ้น จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้พัฒนาโครงการที่จะต้องหาวิธีการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงนี้
แนะรัฐฟื้นฟูความเชื่อมั่นตลาดอสังหาริมทรัพย์
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ที่ผ่านมานั้น แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย อยากให้รัฐบาลเข้ามามีส่วนช่วยผ่านนโยบายต่างๆ เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์และเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับประชาชน
โดยการกำหนดมาตรฐานการออกแบบและการก่อสร้างอาคารสูง ที่สามารถทนทานต่อแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร ทั้งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถสนับสนุนผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการปรับปรุง หรือเสริมความปลอดภัยให้กับโครงการ ผ่านโครงการสินเชื่อพิเศษหรือการให้เงินสนับสนุนเพื่อการปรับปรุงโครงสร้างอาคาร
อีกทั้งควรมีการสื่อสารข้อมูลและสร้างความมั่นใจให้ประชาชน โดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากแผ่นดินไหว เพื่อให้ผู้บริโภครับทราบถึงความปลอดภัยของอาคารที่อยู่ในตลาด
นอกจากนี้ รัฐบาลสามารถส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถช่วยสร้างอาคารที่มีระบบป้องกันแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถพัฒนาระบบเฝ้าระวังแผ่นดินไหว และการเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทันเวลา
ทั้งนี้ การดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับทั้งนักลงทุนและผู้บริโภคในตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน