ASW ปลื้ม รายได้ภูเก็ตดันผลงาน Q1/68 โต 75% 8,320 ล้านบาท

ASW เผยรายได้ภูเก็ตหนุนผลงานไตรมาส 1

ASW เปิดฉากปี 2568 ภูเก็ตหนุนยอดขายกวาด 3 เดือนแรก 8,320 ล้านบาท โตแกร่ง 75%
หลังกระจายความเสี่ยงมุ่งตลาดหัวเมืองท่องเที่ยว-ภูเก็ต-แนวราบ

ASW โชว์ผลงาน Q1/68 กวาดยอดขาย 8,320 ล้านบาท โต 75% คว้ายอดขาย 43% ของเป้าทั้งปี หลังอัตราดอกเบี้ยลด-ท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนยอดจองคอนโดฯ-วิลล่าหรูภูเก็ตกระแสดีรับไฮซีซั่น คาดแผ่นดินไหวไม่กระทบผลงาน Q2/68 เพราะพอร์ตที่อยู่อาศัย 90% เป็นบ้านจัดสรร-คอนโดฯ 8 ชั้น

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ-We Build Happiness”

เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/68 บริษัทมียอดขายจากคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร 8,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เทียบกับไตรมาส 4/67 และเติบโต 33% เทียบกับไตรมาส 1/67 โดยยอดขายดังกล่าวคิดเป็น สดส่วน 43% ของเป้ายอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 19,500 ล้านบาท

โครงการในภูเก็ตหนุนผลงานไตรมาส 1/68

โครงการที่มียอดขายโดดเด่นใน Q1/68 เป็นกลุ่มโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ที่ทยอยเปิดตัวในช่วงไฮซีซั่นปลายปี 2567 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2568

ได้แก่ โครงการเดอะ คาตาเบลโล (THE KATABELLO) ทำเลใหม่ย่านกะตะ มูลค่า 5,500 ล้านบาท, อะดอร่า ราไวย์ (ADORA RAWAI) มูลค่า 1,400 ล้านบาท ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยทั้ง 2 โครงการมียอดจองแล้วกว่า 50%

ADVERTISMENT

และโครงการเดอะ ไทเทิล วิลล่า เอสเตลลา ในยาง (THE TITLE Villa Estella Naiyang) วิลล่าระดับลักเซอรี่โครงการแรกของแบรนด์ THE TITLE มูลค่า 500 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายถึง 70% หลังเปิดตัวเพียง 1 สัปดาห์

ขณะที่โครงการเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แบรนด์ เคฟ เพลย์กราวด์ (Kave Playground) ตรงข้าม รร.บดินทรเดชา มูลค่า 1,600 ล้านบาท และแอทโมซ เดอ โซล (Atmoz De Sol) ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีทิพวัล มูลค่า 1,700 ล้านบาท ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก

ADVERTISMENT

“ตลาดภูเก็ต ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยปี 2567 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปี 2566 โดยเฉพาะภูเก็ตที่เป็น World Destination มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาทุกปี

เราจึงใช้โอกาสช่วงไฮซีซั่นเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งบริษัทย่อยในเครืออย่าง TITLE ก็มีความเชี่ยวชาญในภูเก็ต และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าต่างชาติอยู่แล้ว ทำให้โครงการ Leisure Residences ได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายของ ASW ในไตรมาสนี้”

ประเมินแผ่นดินไหวกระทบไม่เยอะ-ทรัมป์ 2.0 ป่วนกว่า

นายกรมเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับไตรมาส 2/68 บริษัทประเมินว่าอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา มองว่าอาจส่งผลกระทบในระยะสั้นต่อตลาดคอนโดมิเนียม High-rise เป็นหลัก

ขณะที่พอร์ตโฟลิโอเกิน 90% ของบริษัท เป็นบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม Low-rise สูง 8 ชั้น ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว

นอกจากนี้ ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของบริษัทกว่า 40% มาจากกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ต ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน รวมถึงโครงการที่มีแผนสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ทั้งหมดล้วนเป็นคอนโดฯ 8 ชั้น

“ASW ห่วงใยและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทั้งผู้อยู่อาศัยและโครงการ จึงได้จัดส่งทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้าตรวจสอบ ทั้งโครงการที่มีผู้พักอาศัย และโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ทุกโครงการอย่างเร่งด่วน”

โดยทุกโครงการของบริษัท ไม่มีโครงการไหนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการก่อสร้างโครงการให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย 100% ตามมาตรฐานวิศวกรรมในทุกโครงการ

ขณะเดียวกัน ทุกโครงการยังได้ทำประกันภัยอาคารชุดไว้ ครอบคลุมการดูแลทั้งโครงการที่โอนกรรมสิทธิ์แล้ว และโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง และขอส่งกำลังใจถึงทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ เทรนด์ไตรมาส 2/68 มีปัจจัยกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐอเมริกา สถานการณ์เศรษฐกิจจีน แต่ตลาดบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม Low-rise ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการปลดล็อก LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. 2568 ถึง 30 มิ.ย. 2569

ประกอบกับการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ เป็นตัวช่วยเร่งการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทั้งภาพรวมตลาด

ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to Move) ทุกระดับราคา มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท

ไตรมาส 2/68 คอนโดฯสร้างเสร็จจ่อโอน 2 โครงการ

นอกจากนี้ ASW มีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ เตรียมทยอยโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ในไตรมาส 2/68 เพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ แอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน (Atmoz Palacio Ladprao-Wanghin) มูลค่า 1,750 ล้านบาท และแอทโมซ แคนวาส ระยอง (Atmoz Canvas Rayong) มูลค่า 1,250 ล้านบาท

ควบคู่กับบริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนลงทุนที่ประกาศไว้ อาทิ แคมปัสคอนโดที่มีดีมานด์ชัดเจนจากนักศึกษา ผู้ปกครอง และนักลงทุน โครงการในภูเก็ตที่ยังคงได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติ เพื่อสร้างโมเมนตัมยอดขายอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าสามารถสร้างยอดขาย 19,500 ล้านบาทได้ตามที่ตั้งไว้

สำหรับ ASW พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรสะสม 75 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR)

รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ASW รวมมูลค่าโครงการกว่า 121,732 ล้านบาท

แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 22 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 19 โครงการ และ ณ สิ้นปี 2567 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 25,413 ล้านบาท