สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ขายกระฉูดคอนโดฯ วิสซ์ดอม 101

ได้เวลาอัพเดตความคืบหน้าโครงการวิสซ์ดอม 101 กับผู้บริหารระดับคีย์แมน “คุณต่อ-สุทธา เรืองชัยไพบูลย์” ประธานผู้อำนวยการ MQDC-บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โปรไฟล์ไม่ธรรมดา ประสบการณ์ 26 ปีพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและทวีปเอเชีย

Q : ได้รับมาตรฐาน LEED

ในโครงการวิสซ์ดอม 101 ได้รับมาตรฐาน LEED ในส่วนไม่ใช่คอนโดฯ วิธีการเราส่งแบบโครงการให้สถาบันอาคารเขียวในอเมริกา และทำตามมาตรฐานทุกอย่างที่ออกแบบ ล่าสุด ได้มาตรฐาน LEED จากโครงการพัฒนาพื้นที่ 350,000 ตารางเมตร

ซึ่ง MQDC มีคอร์แวลู 3 เรื่อง เรารู้ตัวดีว่าธุรกิจเราสร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อม งานก่อสร้างเป็นการย้ายภูเขาเข้ามาอยู่ในเมือง ทำยังไงให้สร้างผลกระทบทางบวกและลดผลกระทบทางลบ คอนเซ็ปต์พัฒนาโครงการคือสมาร์ทซิตี้ นั่นหมายความว่าทำให้ชุมชนรอบข้างได้ประโยชน์ด้วย

เช่น มีพื้นที่สีเขียว 32% ประมาณ 22,000 ตารางเมตร เปิดให้ชุมชนเข้ามาใช้ได้ฟรี ในขณะที่ภาพรวมกรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวเพียง 10% เพราะการสร้างเมืองคอนกรีตเป็นการสร้างความร้อนให้ชุมชน จึงออกแบบให้มีกรีนมากที่สุดในโครงการ

นอกจากนี้ได้เพิ่มไบก์เลน, ห้องอาบน้ำ, ล็อกเกอร์ สำหรับให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการได้ฟรี เราให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา น้อง ๆ มหา’ลัยหาที่นั่งติวนั่งสอบ มีพื้นที่ห้องสมุดเกือบ 1,000 ตารางเมตร มีฟรีไวไฟโดยทรู 24 ชั่วโมง ระบบรักษาความปลอดภัยลงทะเบียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

อย่างสกายวอล์กไม่ใช่แค่เดินเข้าโครงการ แต่ทำเลยไปถึงซอยสุขุมวิท 101 ยาวออกไปเป็น 500 กว่าเมตร ในขณะที่หน้าโครงการยาวเพียง 300 เมตร

Q : แผนลงทุนของ MQDC

แบรนด์วิสซ์ดอมในอนาคตจะมีฮับวิสซ์ดอม ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมในทำเลท่าพระ ลาดพร้าว สุขุมวิท ตอนนี้มีโมเดลทำเป็นฮับวิสซ์ดอม เริ่มในกรุงเทพฯ อนาคตอยากทำในต่างจังหวัด และระยะยาวถ้าโอกาสไปได้ดีอยากไปต่างประเทศ โดยเริ่มที่ประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม โครงการแบบเดียวกับสุขุมวิท 101 เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะได้ที่ดินขนาด 43 ไร่ติดถนนใหญ่, โดยวิสซ์ดอมต้องมีทำเลในเมือง เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ มีนวัตกรรม

แนวคิดแบบเรา บริษัทเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 พบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีหลายโครงการเริ่มให้พื้นที่สีเขียวในโครงการเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราค่อนข้างดีใจที่ผู้ประกอบการหลายรายให้ความสำคัญและให้ความสนใจพื้นที่สีเขียว ให้ความสำคัญกับน้อง ๆ กลุ่มสตาร์ตอัพคนรุ่นใหม่ได้นำแนวคิดมาทำนวัตกรรม

ถ้าเรามุ่งเน้นผลกำไร คงไม่เน้นขายคอนโดฯ ในราคาที่ขายอยู่ แต่จะเห็นว่าเราเลือกทำแบบมิกซ์ยูสมีพื้นที่พาณิชยกรรม รีเทล พื้นที่ส่วนกลางให้ประโยชน์ชุมชน เพื่อการเติบโตยั่งยืนในระยะยาว

โดยพื้นที่รีเทลมีจำนวน 200 ร้านค้า มีเวตติ้งลิสต์ช็อปละ 3 ผู้ประกอบการ ถ้าคิวแรกสละสิทธิ์เราก็เรียกคุยคิวที่ 2-3 กำลังทยอยเซ็นสัญญาเช่า ค่าเช่าเริ่มจาก 500-600 บาท/ตารางเมตร ไปจนถึง 2,000 บาท/ตารางเมตร พื้นที่ช็อปเล็กสุด 36-1,000 ตารางเมตร

ในส่วนออฟฟิศมีพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร แบ่งสร้างเฟสแรก 40,000 ตารางเมตร กับเฟสสอง 30,000 ตารางเมตร

เฉพาะราคาที่ดินพบว่ามีการปรับขึ้นตลอด โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเดิมตารางวาละ 2 แสนบาท ปัจจุบันเป็นตารางวาละ 5 แสนบาท

Q : คืบหน้ายอดขายและก่อสร้าง

วิสซ์ดอม 101 มีมูลค่าโครงการ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 10,000 กว่าล้านบาท เราเป็นคอนโดฯ ประหลาดขายเพนต์เฮาส์หมดก่อน เราพบว่าลูกค้าซื้อเพื่อเก็บเป็นลองเทอมแอสเสต ไม่ใช่ลงทุนระยะเช่าหรือซื้อลงทุนปล่อยเช่า แต่เก็บไว้เป็นทรัพย์สิน

คอนโดฯตึกแรกขายหมด 100% ห้องไซซ์เล็กเริ่ม 1.2 แสนบาท สร้างเร็วกว่าแผน 6 เดือน เตรียมโอนต้นปี 2561 สัดส่วนลูกค้าต่างชาติมีเอเย่นต์สิงคโปร์จองซื้อ 125 ห้อง จาก 600 ยูนิต ไม่ถึง 30%

มีการใช้ระบบ BIM มาออกแบบ นำโมเดลสามมิติมาจำลองว่ามีอะไรบ้าง ไม่ต้องทำ ทำแล้วรื้อ ทำให้ก่อสร้างเสร็จเร็ว เดิมกำหนดสร้างเสร็จใน 30 เดือน เท่ากับสร้างเร็วขึ้น 20% มีข้อดีทำให้วัสดุสิ้นเปลืองหรือการสิ้นเปลืองวัสดุลดลง 30% ซึ่งระบบ BIM ในเมืองไทยมีการใช้มา 5 ปีแล้ว

ตึกสองมียอดขาย 70% แบบ 2 ห้องนอน ไซซ์ใหญ่ขึ้น ราคาอัพนิดหน่อย เหลือขาย 30% มีเอเย่นต์มาคุยกับเราหลายเจ้า จากฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย ดีลเข้ามา เห็นจากที่เราขายมากับคอนเซ็ปต์โครงการ คุยกันถึง 100-200 ห้อง จาก 600 ห้อง ส่วนจีนตอนนี้มีปัญหาการโอนเงินข้ามประเทศทำให้ซื้อไม่ได้

ตึกสาม 500 ยูนิต ไซซ์เริ่ม 30-100 ตารางเมตร เตรียมเปิดขายปี 2561 มีแบบ 2 ห้องนอนเยอะขึ้น และราคาอัพอีกประมาณ 1.4 แสนบาท/ตารางเมตร เริ่มก่อสร้าง 10% แล้ว ตอนนี้มีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาดีล จุดเด่นห้องชุดที่นี่ลูกค้าได้ระบบสมาร์ทโซลูชั่น ลงรถไฟฟ้าเปิดแอร์ เปิดไฟ จองพื้นที่ส่วนกลางผ่านสมาร์ทโฟน

คีย์เวิร์ดโครงการ เราเป็น “Third Place” อะไรที่นอกเหนือบ้านกับที่ทำงานเป็นสถานที่สุดโปรดของทุกคน