
นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยจัดตั้งเป็นบริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด โดยมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิม 2 บริษัท คือ บริษัท เฉลิมนคร จำกัด พัฒนาโครงการบ้านสถาพร รังสิต เนื้อที่ 200 ไร่ กับบริษัท ทรัพย์หิรัญ จำกัด พัฒนาโครงการบ้านทรัพย์หิรัญทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 20 ปี
กลยุทธ์การลงทุนของสถาพร เอสเตท มีการรีโมเดลแผนพัฒนาโครงการ โดยเน้นขยายธุรกิจเข้าสู่โครงการแนวสูงมากขึ้น ด้วยการปรับพอร์ตพัฒนาโครงการแนวสูง 50% แนวราบ 45% และรายได้จากทรัพย์สินหรือ recurring incomes 5%
“โปรดักต์แนวราบใช้กลยุทธ์เน้นเรื่องศักยภาพของทำเลในอนาคต ส่วนแนวสูงเน้นทำเล CBD ของกรุงเทพฯ”
นายสุนทรกล่าวว่า ไตรมาส 3/61 เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้แบรนด์ “เดอะเชดด์ สาทร 1” (The SHADE Sathon 1) ก่อสร้างบนที่ดิน 2 ไร่เศษ ออกแบบเป็นอาคารโลว์ไรส์ 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 278 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-38 ตารางเมตร
กับแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 46-60 ตารางเมตร ที่จอดรถ 70% มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ตามแผนต้องการรุกมากขึ้นในปี 2562 โดยวางแผนเปิดคอนโดฯอีก 2 โครงการ ได้แก่ เดอะ เชดด์ ทวิกก์ เย็นอากาศ และเดอะ คราวน์ พระราม 4 มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท โดยเซ็กเมนต์ตลาดคอนโดฯเน้นห้องชุดพรีเมี่ยม ราคาเริ่ม 1.3 แสนบาท/ตารางเมตรควบคู่กับแผนเปิดแนวราบ 1 โครงการแบรนด์ใหม่ “ดิ อิเธอร์นิตี้ รังสิตคลอง 5″(The Eternity) บ้านเดี่ยว บนพื้นที่ 99 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ในด้านรายได้ สถาพร เอสเตท มีเป้าหมาย 5 ปี (2562-2566) ต้องการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเริ่มสร้างโปรไฟล์พอร์ตรายได้ในปี 2562 เริ่มต้นที่ 450 ล้านบาท
หลังจากนั้นในช่วงปี 2563-2566 ตั้งเป้ารายได้ต่อปีอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท, 2,695 ล้านบาท, 3,045 ล้านบาท และ 3,070 ล้านบาทตามลำดับ นั่นหมายความว่าภายใน 5 ปีบริษัทต้องการมีรายได้รวม 11,500 ล้านบาทหากเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ปี 2566 เป็นปีที่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ โดยตั้งงบฯจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในช่วง 5 ปีดังกล่าวรวม 3,500 ล้านบาท
กุญแจความสำเร็จในการพัฒนาโครงการมาจากการจับขั้วพันธมิตรชั้นนำ โดยสถาพร เอสเตท มีพันธมิตรธุรกิจหลัก 4 รายในปัจจุบัน ตอบโจทย์ความต้องการที่พักอาศัย smart life ยุค 4.0 ภายใต้คอนเซ็ปต์ 4 สมาร์ท ประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าพานาโซนิค นำเสนอโซลูชั่นในด้านสมาร์ทออโตเมชั่น, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ร่วมกันพัฒนาเครื่องรีไซเคิลขยะจากนวัตกรรมล่าสุด, บริษัทพลังงานมหานคร ตอบโจทย์สมาร์ทเอ็นเนอร์ยี่
โดยร่วมกับ EA ANYWHERE ติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และบ็อกซ์ 24 ผู้เชี่ยวชาญล็อกเกอร์อัจฉริยะ