การเคหะเซ็น MOU กับธ.กรุงไทยปล่อยสินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ เร่งสร้างบ้านประชารัฐสนองรัฐบาล คสช.

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า โครงการเคหะประชารัฐร่วมทุนเป็นอีกหนึ่งภารกิจของการเคหะแห่งชาติภายใต้การขับเคลื่อนแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560 – 2579) โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมทุนกับการเคหะแห่งชาติใน 3 รูปแบบ คือ 1.โครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จะดำเนินงานในรูปแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Joint Investment) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ
พ.ศ. 2556

2.โครงการที่มีมูลค่าโครงการต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ดำเนินงานในรูปแบบโครงการร่วมดำเนินกิจการระหว่างภาครัฐและเอกชน (Joint Operation) และ 3.โครงการร่วมสนับสนุนภาคเอกชน (Joint Support) ตามพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ และระเบียบการเคหะแห่งชาติว่าด้วยการสนับสนุนโครงการ

ทั้งนี้ โครงการร่วมสนับสนุนภาคเอกชน (Joint Support) การเคหะฯ จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทั้งการศึกษาความเป็นไปได้โครงการและบริหารจัดการงานก่อสร้าง ประสานงานกับสถาบันการเงินของรัฐในการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการภาคเอกชน

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า กรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ให้การสนับสนุนสินเชื่อกับผู้ประกอบการที่สนใจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปพัฒนา (Pre Finance) ทั้งแนวราบ และแนวสูง ซึ่งการเคหะแห่งชาติจะเป็นผู้คัดเลือกผู้ประกอบการโดยธนาคารจะสนับสนุนวงเงินสินเชื่อในส่วนของค่าก่อสร้าง และพัฒนาสาธารณูปโภค

ก่อนหน้านี้ ธนาคารมีการร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติในการลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 และมีผู้ยื่นขอสินเชื่อเกือบ 100 ล้านบาท ทั้งในโครงการจังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์ 3) ระยะ 3 จำนวน 33 ราย วงเงิน 24,640,000 บาท, โครงการจังหวัดสงขลา (หาดใหญ่-ลพบุรีราเมศวร์) จำนวน 107 ราย วงเงิน 67,410,000 บาท และโครงการจังหวัดศรีสะเกษ ระยะ 3 จำนวน 12 ราย วงเงิน 7,740,000 บาท