ทอท.ลุยสร้างเทอร์มินอล2สุวรรณภูมิ ประมูลสัญญาเดียว 4.2 หมื่นล้านตอกเข็มปีหน้า

บอร์ด ทอท.ลุยไฟเซ็นสัญญา “กลุ่มดวงฤทธิ์ฯ” ออกแบบเทอร์มินอล 2 สนามบินสุวรรณภูมิ ก.ย.นี้ ยื่น 3 เงื่อนไข แบบสร้างได้จริง ไม่เกินกรอบวงเงิน ทันเดดไลน์เวลา กดปุ่มประมูล Q3/62 สัญญาเดียว 4.2 หมื่นล้าน ลงเข็มปลายปี’62 ดึงสายการบินชื่อดังเช่าพื้นที่ รวบพื้นที่ดิวตี้ฟรีแพ็กเป็นสัมปทานเดียวกับอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน หลังคิงเพาเวอร์หมดสัญญาปี’63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2561 ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) มีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานอนุมัติให้ ทอท.เซ็นสัญญากับกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน DBAP-นิเคนเซกเก-อีเอ็มเอส-เอ็มเอชพีเอ็ม-เอ็มเอสเอ-เออาร์เจ หรือกลุ่มดวงฤทธิ์ บุนนาค ให้เป็นผู้ออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิภายในเดือน ก.ย.นี้ วงเงิน 329 ล้านบาท และดำเนินการออกแบบให้แล้วเสร็จใน 10 เดือน เพื่อ ทอท.จะนำแบบไปประมูลก่อสร้างต่อไป

หลัง ทอท.ได้รายงานความคืบหน้ากรณีที่กลุ่ม SA ประกอบด้วย บจ.สแปน คอนซัลแตนท์ และ บจ.ไซน์-เทค เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางพร้อมขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้บอร์ด ทอท.ระงับการพิจารณาอนุมัติ หรือเห็นชอบผู้ชนะการประกวดแบบและราคา

โดยวันที่ 17 ก.ย. 2561 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ระงับการพิจารณาอนุมัติหรือเห็นชอบให้ผู้ชนะการประกวดราคารับจ้างสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำขอของผู้ฟ้องคดีอาจมีผลให้การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ต้องล่าช้าออก
ไปอีก และอาคารผู้โดยสารเดิมไม่สามารถรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาก จะเป็นปัญหาอุปสรรคในการบริการสาธารณะ

สำหรับประเด็นที่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในหลายประเด็นทาง ทอท.ชี้แจงว่า กระบวนการพิจารณาด้านการออกแบบคณะกรรมการจะต้องมีสถาปนิกเกินกึ่งหนึ่ง

คณะกรรมการจัดหาพัสดุงานจ้างสำรวจออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีกรรมการ 5 ท่าน ซึ่ง 1 ใน 5 เป็นนายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ และมีผู้แทนจากสมาคมสถาปนิกสยามฯ 8 ท่านมาให้ความเห็นทางวิชาการในการประเมินคะแนนของผู้เข้าประกวดแบบ

โดยผลการให้คะแนนของกลุ่มบริษัทที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ชนะการประกวดแบบได้คะแนน 94.5 คะแนน สูงเกินระดับ 80 คะแนนที่ ทอท.ตั้งเกณฑ์ไว้ และไม่มีข้อทักท้วงใด ๆ

ซึ่งการประกวดแบบดังกล่าวเป็นเพียง conceptual design ซึ่งผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องปรับแบบตามข้อเสนอแนะและสอดคล้องกับความต้องการใช้งานของ ทอท. โดยแบบดังกล่าวจะต้องถูกต้องสอดคล้องกับมาตรฐานและข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

แหล่งข่าวจาก ทอท. เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามขั้นตอนการทำงานหลังเซ็นสัญญากับกลุ่มดวงฤทธิ์ฯแล้ว จะใช้เวลา 2 เดือนทบทวนแบบร่างทั้งหมดนับจากวันเซ็นสัญญา จากนั้นนำแบบร่างเป็นคอนเซ็ปต์มาออกแบบร่างขั้นต้นใช้เวลาประมาณ 5 เดือน แล้วถึงจะเป็นการออกแบบรายละเอียดก่อสร้างเพื่อนำไปสู่การคำนวณราคากลาง จะใช้เวลาอีกประมาณ 8 เดือน

“แบบที่ออกและวัสดุก่อสร้างที่ใช้จะต้องถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง และเป็นไปตามมาตรฐานสากล และต้องดำเนินการภายใต้ 3 เงื่อนไข คือ แบบต้องนำไปสู่การก่อสร้างได้จริง ค่าก่อสร้างไม่เกินกรอบวงเงินที่กำหนด และสร้างง่ายเสร็จตามเวลาที่กำหนด ส่วนเรื่องการลอกเลียนแบบมาจากที่อื่นนั้น ทอท.ไม่สามารถจะก้าวล้ำได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล และในคณะกรรมการก็มีผู้แทนจากสถาปนิกมาร่วมพิจารณาด้วย”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า คาดว่าจะเปิดประมูลก่อสร้างภายในไตรมาส 3 ของปี 2562 จำนวน 1 สัญญา กรอบวงเงิน 42,084 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นโครงการประมูลที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ เมื่อได้ผู้รับเหมาแล้วจะเริ่มการก่อสร้างได้ในปลายปี มีกำหนดแล้วเสร็จกลางปี 2565

เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิได้อีก 30 ล้านคนต่อปี โดยอาคารจะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 3.8 แสนตารางเมตร และจะมีการสร้างรถไฟฟ้า APM แบบลอยฟ้าเชื่อมจากอาคารปัจจุบันมายังอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ระยะทางประมาณ 1 กม.เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้มาใช้บริการสนามบิน


“ทอท.จะใช้เงินจากรายได้เป็นค่าก่อสร้างอาคารหลังใหม่นี้ และอยู่ระหว่างเจรจาสายการบินมาใช้บริการ ทั้งการบินไทยที่จะให้ทั้งสายการบินในประเทศและระหว่างประเทศ แต่ยังไม่มีข้อสรุป นอกจากนี้ ยังมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่สนใจรวมถึงสกายทีม และสตาร์อัลไลแอนซ์ ส่วนพื้นที่ปลอดภาษีอากรหรือดิวตี้ฟรี จะรวบเป็นแพ็กเกจเดียวกับอาคารผู้โดยสารปัจจุบันที่จะหมดสัญญากับคิงเพาเวอร์ในปี 2563 ซึ่ง
ทอท.เตรียมจะเปิดประมูลในเร็ว ๆ นี้” แหล่งข่าวกล่าว