รื้อแบบ “บางใหญ่-กาญจน์” ปีหน้า “พัทยา-มาบตาพุด” วิ่งฉลุย

คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต

 

หลังทุ่มเม็ดเงิน 149,439 ล้านบาท ก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง รวม 324 กม. เมื่อปลายปี 2559 ประกอบด้วย สายพัทยา-มาบตาพุด 32 กม. สายบางปะอิน-นครราชสีมา 196 กม. และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี 96 กม. เชื่อมการเดินทางไปยังภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง 3 โครงการนี้ได้รับการผลักดันผ่านเมื่อ 2 อธิบดี ตั้งแต่ “ชูศักดิ์ เกวี” ที่ตั้งไข่ขออนุมัติโครงการ ไหลมาประมูลสมัย “ธานินทร์ สมบูรณ์” ซึ่งถึงจะประมูลได้ครบทุกสัญญาและสามารถประหยัดงบประมาณไปได้ร่วม ๆ 1 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีปัญหาที่ยังเคลียร์ไม่จบ

จนมาถึง “อานนท์ เหลืองบริบูรณ์” ที่ต้องรับเผือกร้อนทั้งค่าเวนคืนที่เพิ่มขึ้น การประมูลสัมปทานจัดเก็บค่าผ่านทางของสายบางใหญ่-กาญจนบุรี และบางปะอิน-นครราชสีมา เงินลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท ที่ติดหล่มอยู่นานแรมปี รอลุ้นฝีมืออธิบดีอานนท์จะผลักดันโครงการได้ฉลุยตลอดรอดฝั่งหรือไม่

สำหรับความก้าวหน้างานก่อสร้าง ที่ดูจะรุดหน้ามากที่สุดคือ สาย “พัทยา-มาบตาพุด” ซึ่งกรมทางหลวงใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ มาก่อสร้าง จำนวน 17,819 ล้านบาท หลังเคลียร์เรื่องการรื้อย้ายช่วงปลายทางได้แล้วเสร็จ

ล่าสุด กรมทางหลวงกำลังเร่งเครื่องก่อสร้างให้เสร็จภายในเดือน พ.ย. 2561

ปัจจุบันมีความคืบหน้า 89.215% ยังล่าช้าจากแผน 97.570% ส่วนการก่อสร้างงานระบบเก็บค่าผ่านทางได้ผู้รับเหมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ กลุ่มกิจการร่วมค้าทริปเปิ้ล เอสเอฟ ประกอบด้วย บจ.สี่แสงการโยธา (1979), บจ.ฟาติมา อาร์.บี.ดี.เอส อินเตอร์เนชั่นแนล, บจ.เซ็ท กรุ๊ป โซลูชั่น และ บจ.แซม เทคโนโลยี ซัพพอร์ต มีกำหนดแล้วเสร็จเปิดให้บริการปลายปี 2562

ส่วนสาย “บางปะอิน-นครราชสีมา” ใช้ค่าก่อสร้าง 76,600 ล้านบาท ถึงจะต้องทบทวนและทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพิ่มเติมในบางพื้นที่ แต่เนื่องจากกรมทางหลวงแบ่งการก่อสร้าง 40 สัญญา ทำให้รับเหมาเข้าพื้นที่ได้ตลอดเส้นทาง

ล่าสุด มีผลงานก้าวหน้า 50.261% เร็วกว่าแผนงาน 49.677% คาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 2563 ส่วนงานระบบคาดว่าจะประกาศเชิญชวนครั้งที่ 2 ภายในเดือน พ.ย.นี้ หลังยกเลิกเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่การเปิดบริการยังลุ้นจะทันปลายปี 2563 หรือขยับไปปี 2564

สำหรับสาย “บางใหญ่-กาญจนบุรี” ค่าก่อสร้าง 49,120 ล้านบาท นับเป็นโครงการที่ทำผลงานพลาดเป้าที่สุด หลังค่าเวนคืนที่ดินแพงขึ้นจากที่ “ครม.-คณะรัฐมนตรี” อนุมัติกรอบไว้หลายเท่าตัว จาก 5,420 ล้านบาท เป็น 14,217 ล้านบาท ซึ่งกรมทางหลวงกำลังทำรายละเอียดเสนอไปยัง ครม.เพื่อขอขยายกรอบวงเงินเพิ่มจึงทำให้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาร่วม 2 ปี ผู้รับเหมา 25 สัญญาไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ กระทบชิ่งต่อแผนงานก่อสร้างที่ต้องทำได้ 43.026% แต่ปัจจุบันรันโครงการได้เพียง 13.215%

จากความล่าช้า “ทล.” ปรับไทม์ไลน์การก่อสร้างใหม่ จากเดิมเสร็จปี 2563 เป็นเดือน ส.ค. 2564 ส่วนงานระบบเก็บค่าผ่านทางรอประกาศประมูลรอบที่ 2 พร้อมกับสายบางปะอิน-นครราชสีมา เดือน พ.ย.นี้ ขณะที่การเปิดบริการถ้าเข็นไม่ทันปลายปี 2564 น่าจะขยับเป็นต้นปี 2565

“อานนท์ เหลืองบริบูรณ์” รักษาการอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การขอขยายกรอบวงเงินค่าเวนคืนที่ดินของสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ได้นำเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่คาดว่าจะมีให้นำกลับมาทำรายละเอียดชี้แจงเพิ่มเติม ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะได้รับการพิจารณาเมื่อไหร่


ทั้งนี้ กรมไม่ได้รอ ครม.อย่างเดียว ในขณะเดียวกันก็เตรียมจะปรับรูปแบบก่อสร้างของโครงการ เช่น เสา คาน จากเดิมที่อาจจะออกแบบไว้อย่างสวยงาม ก็ปรับลด เป็นต้น เพื่อประหยัดค่าก่อสร้างได้อีกประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เนื่องจากดูแล้วคงไม่สามารถปรับลดค่าเวนคืนลงได้อีก เพราะประเมินตามราคาตลาดและราคาที่คำนวณมานั้น มีคณะกรรมการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว