ท็อป 10 ชาติขอวีซ่าลองสเตย์

คอลัมน์ ดาต้าเบส

ในภาวะที่ประเทศไทยกำลังพะวักพะวนอยู่กับปัญหานักท่องเที่ยวจีนลดน้อยลง จนกังวลว่ากระทบต่อรายได้ประเทศจะถดถอยลง

มุมมองของภาคอสังหาริมทรัพย์ บ้านเราเป็นที่หมายปอง (destination) ในการพักอาศัยระยะยาวมากขึ้น โดยเฉพาะเป็นบ้านของคนวัยเกษียณจากทั่วโลก

สถิติในรอบ 10 ปี ระหว่างปี 2551-2561 (ประมาณการ) โดย “ตม.-สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” พบว่า มีประชาชน 10 ประเทศที่ขอวีซ่าเข้าใช้ชีวิตบั้นปลาย ดังนี้

อันดับ 1 อังกฤษ รองลงมาคือ อเมริกัน เยอรมัน จีน สวิส ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นอร์เวย์ และฮอลแลนด์

โดยเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านสำหรับตลาดลองสเตย์ พบว่ามีทั้งไทย มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ทั้งนั้น คะแนนรวมของประเทศไทยเป็นรองเพียง “มาเลเซีย” ประเทศเดียว

เจาะลึกลงรายละเอียดด้านที่ไทยเสียเปรียบ คือ วีซ่าเพื่อการอยู่อาศัย, ค่าเช่า, ด้านสุขภาพ และด้านการกำกับดูแล ในขณะที่ไทยได้เปรียบมี 2 ปัจจัยหลัก คือ ด้านต้นทุนกับค่าใช้จ่ายการอยู่อาศัย

ล่าสุด “วสันต์ คงจันทร์” เอ็มดีค่ายโมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ ระบุว่า ตลาดโครงการที่อยู่อาศัยผู้สูงวัยในประเทศไทยในปี 2561 สิริรวมกันแล้วมีมูลค่าเกิน 1 แสนล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว แบ่งเป็น โครงการเต็มรูปแบบที่ต้องมีบริการทางการแพทย์ร่วมกับการบริการสุขภาวะผู้สูงวัย มูลค่า 40,000 ล้านบาท มีสัดส่วนลูกค้า 10%

ในขณะที่ผู้สูงวัยคนไทยมีพฤติกรรมชอบพักอาศัยอยู่กับลูกหลาน-ครอบครัว-ญาติพี่น้อง ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยทั่วไปที่อาศัยจังหวะของการปรับดีไซน์+ฟังก์ชั่นให้รองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย มีมูลค่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนลูกค้า 90% ของตลาดผู้สูงวัยในภาพรวม