ปลัดใหม่คมนาคมเปิดใจ “งานเยอะ-งานยาก-เวลาน้อย-คนคาดหวังสูง” ลั่น2ปีลุยEEC-บูมเที่ยวเมืองรอง

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวมอบนโยบายกับหน่วยงานต่างๆของกระทรวงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งว่า ยอมรับว่ามารับตำแหน่งนี้แล้วหนักใจมาก เข้าใจว่าที่รัฐบาลมีมติอนุมติให้มาเป็นปลัดกระทรวง เพราะต้องการให้ทำงานอย่างเต็มที่ เคยได้ยินคนเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คิดโครงการไว้เยอะ ตอนนี้มาเป็นปลัดแล้ว ช่วยทำให้งานเป็นไปตามแผนที่คิดไว้ให้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี ตนมีความมั่นใจและจะทำงานอย่างเต็มที่ ไม่เคยถอย และจะทำแบบนี้ต่อไป แต่มีเวลาทำงานจำกัด เพราะมาเป็นปลัดมีระยะเวลาเพียง 2 ปี แต่งานของกระทรวงมีมากและยากขึ้น แถมเวลาดำเนินการมีน้อย และมีความคาดหวังสูง ทำให้ต้องวางแผนคิดวิธีการทำงานมากขึ้น เพราะตนทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องบริหารจัดการทั้งกระทรวงฯและรับนโยบายจากรัฐบาล ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วย มาถ่ายทอดและขับเคลื่อน

“ผมขอปวารณาตัวว่า ผมขอช่วยงานทุกหน่วยงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้คิดว่าจะมาช่วยทำให้งานของแต่ละหน่วยงานสำเร็จ ถ้ามีเรื่องใดที่ต้องใช้งานปลัดคนนี้ ตนยินดีช่วยและจะทำงานเต็มที่ ขอให้แต่ละหน่วยงานอย่าลืมเงื่อนไขที่ว่า งานมาก ยากขึ้น เวลาน้อย และความคาดหวังมีสูงขึ้น”

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของนโยบายเป็นเรื่องของรัฐมนตรีว่าการ โดยมีรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยกำกับดูแล ซึ่งทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม ขอให้หัวหน้าหน่วยทุกหน่วยงานรับนโยบายไปปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมาย

ตอนนี้รัฐบาลมีนโยบายหลักที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอยู่ 2 อย่างคือ 1.นโยบายการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และ2. นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรอง หากติดขัดด้านกฎหมายหรืออื่นๆ จะต้องนำมาเรียนให้รัฐมนตรีทราบว่าทำได้แค่ไหน ติดขัดเรื่องใดบ้าง เพราะทั้งสองท่าน ตรวจงานละเอียดมาก อาจจะเหนื่อยบ้างแต่งานที่ออกมาจะมีคุณภาพ

“อีกทั้งงานของแต่ละหน่วยไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นงานของกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับทุกหน่วยงาน เรามีคำพูดที่ว่า One Transport One Family ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องบูรณาการ​การทำงานกัน”

ส่วนการชี้แจงกรณีที่มีข้อร้องเรียนต่างๆเข้ามา ทุกหน่วยงานต้องรับฟัง แม้จะไม่มีดราม่าเกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียก็ตาม และหัวหน้าหน่วยจะต้อง Take Action อย่างรวดเร็ว​ เพราะรัฐมนตรีเคยพูดกับตนว่า บางเรื่องรู้มาจากที่อื่น แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลไม่เคยรายงานให้ทราบเลย ดังนั้นหัวหน้าหน่วยงานจะต้องรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้รัฐมนตรีรับทราบโดยเร็ว และต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการ