เมินเสียงค้านคมนาคมลุย”เทอร์มินอล2สุวรรณภูมิ”ชง5 โปรเจ็กต์ยักษ์กว่า2แสนล้านเข้าครม.สัญจรเชียงราย-พะเยา

นายชัยวัฒน์​ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม​ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)​ ที่จ.เชียงราย-พะเยา ระหว่างวันที่ 29-30 ต.ค. 2561 นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอ 5 โครงการสำคัญให้ ครม.พิจารณา รวมมูลค่า 206,201ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 2 เงินลงทุนรวม 114,047 ล้านบาท 2.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา เงินลงทุนรวม 10,588 ล้านบาท 3.โครงการมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ ระยะทาง119 กม. เงินลงทุน 79,006 ล้านบาท 4.ศูนย์​การขนส่งชายแดน จ.นครพนม เงินลงทุน 1,200 ล้านบาท และ5. โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า เชียงของ จ.เชียงราย เงินลงทุน 1,360 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเสนอได้ครบทุกโครงการ เพราะต้องผลักดันให้ได้ภายในเดือนต.ค.นี้ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายไว้

ส่วนการขอขยายกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน (เวนคืน) ในโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่ – กาญจนบุรี เพิ่มเติมอีก 14,217 ล้านบาท อยู่ระหว่างทบทวนตัวเลขโดยกรมทางหลวง (ทล.) เพราะทล.ในฐานะเจ้าของโครงการต้องชี้แจงให้ได้ว่า ค่าเวนคืนที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากอะไร ยอมรับว่าตนหนักใจกับเรื่องนี้ เพราะทล.ก็ทำการบ้านอย่างหนักมาโดยตลอด แต่รัฐบาลคงไม่มีประเด็นอะไรสอบถามเพิ่ม เพียงแต่ต้องชี้แจงให้ได้เงินที่เพิ่มขึ้นมามีเหตุผลรองรับ ซึ่งกระทรวงก็พยายามเร่งให้ทล.เสนอ ครม. ให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้

ขณะที่โครงการรถไฟรางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 8 เส้นทาง ยังไม่มีเสนอเข้าครม.อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (บอร์ดสภาพัฒน์) เช่นเดียวกับโครงการส่วนต่อขยายสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา , ตลิ่งชันศิริราช ระยะทางรวม 25.7 กม. เงินลงทุนรวม 19,042 ล้านบาท และสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 8.9 กม. เงินลงทุน 7,596 ล้านบาท โดยหากทางสภาพัฒน์มีประเด็นสงสัยในเชิงเทคนิค ตนก็พร้อมไปชี้แจงด้วยตัวเอง


ส่วนที่มีการจัดเสวนาคัดค้านโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารแห่งที่2สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า4.2หมื่นล้านบาท ของหลายหน่วยงานตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ได้ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ ทอท. เป็นผู้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ถือว่าชี้แจงได้ครบทุกประเด็นแล้ว ส่วนกระทรวงฯก็ยังยืนยันที่จะผลักดันโครงการนี้ต่อไป