นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทพ.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 บนเส้นทางของทางด่วนขั้นที่ 2 ที่มุ่งหน้าเข้าเมือง ในเบื้องต้นแนวเส้นทางจะเริ่มต้นจากด่านประชาชื่น-อโศก และมักกะสัน ในรูปแบบเป็นทางบายพาส เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาการจรารบนทางด่วนที่ปัจจุบันมีปริมาณการจราจรอยู่ 1.8 ล้านคัน/วัน และมีบางวันจะแตะ 2 ล้านคัน/วัน
“ตอนนี้มีคอนเซ็ปต์แล้ว มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ที่จะก่อสร้าง ในปีหน้าผลศึกษาจะแล้วเสร็จ เราให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศึกษาให้โดยเพิ่มเติมจากที่ศึกษารูปแบบการร่วมทุนของทางด่วนขั้นที่ 2 ที่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพหรือ BEM จะครบกำหนดสัญญาสัมปทานในปี 2563 ซึ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำมาพิจารณาร่วมด้วย”
- อิสราเอลยิงขีปนาวุธโจมตีโต้กลับอิหร่าน กระทบเที่ยวบิน ต้องระงับ-เปลี่ยนเส้นทาง
- เปิดประวัติ “กีรติ รัชโน” ปลัดกระทรวงพาณิชย์
- เสียงที่ “แบงก์ชาติ” ไม่ได้ยิน
นายสุชาติยังกล่าวถึงความคืบหน้าการแพ้คดีทางแข่งขันของทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ที่ศาลสั่งให้กทพ.จ่ายค่าชดเชยให้ BEM รวมเงินต้นและดอกเบี้ยแล้ววงเงิน 4,000 ล้านบาท ในวันที่ 1 พ.ย.2561 คณะอนุกรรมการจะเริ่มเจรจากับ BEM เพื่อหาแนวทางดำเนินการร่วมกัน จะเร่งให้ได้ข้อสรุปในเดือน ธ.ค.นี้
“การเจรจาก็ต้องนำข้อมูลต่างที่ยังค้างคาต่อกันมาพิจารณาด้วย เช่น ข้อพิพาทต่างๆ”
นายสุชาติกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา กทพ.ได้รับโอนเงินจำนวนกว่า 4.4 หมื่นล้านบาท ที่ได้จากการขายหน่วยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) เพื่อก่อสร้างโครงการทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก และส่วนต่อขยายทดแทน ตอน N1 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเปิดประมูลสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตกก่อนเป็นสายแรก วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ กทพ.ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีที่นำไปเข้ากองทุนรวมฯตามปกติ โดยจะจัดให้มีตู้เก็บค่าผ่านทางแบบเงินสด และตู้เก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทางพิเศษได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกในการใช้บริการและลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง
