AP ทุ่มพันล้าน บุกสุขุมวิท 62 “แสนสิริ” เกาะติดเอเชียทีค

แฟ้มภาพ

อสังหาฯขยายไม่หยุด บิ๊กเอพีทุ่มพันล้านซื้อที่แปลงเด็ด สุขุมวิท 62 จากกลุ่มเฟอร์นิเจอร์สโตน&สตีล ขึ้นโครงการใหม่ประชัน “อนันดา” ดักลูกค้าโซนสุขุมวิทเชื่อมทางด่วน-รถไฟฟ้า ชี้สถานีบางจากเติบโตสูง ฟาก “แสนสิริ” บุกเจริญกรุงครั้งแรก ผุดบ้านแพงเกาะติดเอเชียทีค แหล่งท่องเที่ยวในเมืองริมเจ้าพระยา

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และแบรนด์ดังอย่าง AP และแสนสิริ ยังคงรุกหนักลงทุนโครงการหรูในเมืองอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะดูซึมเซา

ล่าสุด นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP ได้ซื้อที่ดินทำเลทอง ขนาด 2-3 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท 62 ใกล้สถานีบางจากแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส ราคาเฉลี่ย 7-9 แสนบาทต่อตารางวา คิดเป็นเม็ดเงินเฉียด 1 พันล้านบาท พร้อมล้อมรั้วชูโลโก้ AP เตรียมขึ้นโครงการใหม่ในโซนสุขุมวิทช่วงปลาย

โดย AP ซุ่มซื้อที่ดินจากตระกูล “กิจกัญจนาสน์” เจ้าของเฟอร์นิเจอร์ “สโตน&สตีล” ผู้ประกอบการแบรนด์ไทยดีไซน์โมเดิร์นที่ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 2532 และออกบูทงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (TIFF) ที่เดียวทุกปี

ซึ่งเป็นการซื้อโชว์รูมด้านหน้าและบ้านพักอาศัยส่วนตัว พร้อมกับซื้อที่ดินตาบอดด้านในอีกแปลงแต่คนละเจ้าของ ทำให้ AP ได้แปลงที่ดินขนาดใหญ่

และก่อนหน้านี้ นายชานนท์ เรืองกฤตยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ก็เคยซุ่มซื้อที่ดินตลาดบางจาก ติดรถไฟฟ้าสถานีบางจากขนาด 8 ไร่เศษ แล้วขึ้นคอนโดมิเนียมหรู ยอดขายคืบหน้าแล้ว 70%

ทำให้ทำเลบางจากย่านสุขุมวิท เป็นที่น่าจับตาของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯอีกครั้ง ยิ่งล่าสุดกลุ่มน้ำมันบางจากได้ถือฤกษ์วันที่ 17 สิงหาคม 2560 เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่จาก “บางจาก ปิโตรเลียม” เป็น บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น พร้อมทำบุญย้ายที่ทำการใหม่จากซอยสุขุมวิท 64 มาอยู่ที่อาคาร M ทาวเวอร์ ริมสุขุมวิทใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางจากเช่นกัน

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า เอพียังแอ็กทีฟต่อเนื่องกับคอนโดฯโครงการใหม่ โดยยึดแนวทำเลรถไฟฟ้าเป็นหลัก และพัฒนาได้ในราคาซื้อขายที่ไม่ผิดปกติมาก

“บางจากถือว่าตอบโจทย์ในปัจจุบันคือมีทั้งทางด่วน (2 โครงข่าย) และรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นทำเลมีอนาคต จากเดิมเราเคยขึ้นโครงการที่สุขุมวิท 50 มาแล้วตรงเทสโก้ โลตัส อ่อนนุช ประสบความสำเร็จมาก ลูกค้าซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง มาแปลงนี้เรามั่นใจเหมือนกับไลฟ์ วัน ไวร์เลส วิทยุ กับไลฟ์ ลาดพร้าว ที่ยอดขายดีมาก”

ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2560 เอพีสร้างรายได้รวมสูงถึง 10,500 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 1,100 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวอีก 18 โครงการ รวมมูลค่า 28,750 ล้านบาท ส่วนการรับรู้รายได้ถึงสิ้นเดือน ก.ค.นี้ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก)มากถึง 34,500 ล้านบาท เป็นแนวราบ3,820 ล้านบาท คอนโดฯ 30,680 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 2564

แสนสิริลุยเจริญกรุงครั้งแรก 

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีที่แล้วบริษัทซื้อที่ดินเจริญกรุง80 เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ เดิมเป็นที่ว่างเปล่า พัฒนาเป็นโครงการแนวราบ ภายใต้แบรนด์ “สิริ สแควร์” เป็นทาวน์โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น สไตล์ New York Loft ห่างเอเชียทีค 1 กม. จำนวน 35 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 530 ล้านบาท เปิดขายแล้ว ปัจจุบันมียอดขาย 25-30% คาดจะปิดการขายภายใน 1 ปี

“เป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เราต้องการขยายทำเลแนวราบให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งทำเลเจริญกรุงเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนพัฒนา เนื่องจากเป็นทำเลที่มีกำลังซื้อ อยู่ติดกับแหล่งท่องเที่ยวเอเชียทีคและใกล้ที่ตั้งทำการใหญ่ศาลแขวงพระนครใต้”

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนของปี 2560 แสนสิริมีรายได้รวมถึง 15,784 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ 34,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,316 ล้านบาท จากการทยอยโอนส่งมอบคอนโดมิเนียมและแนวราบ อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม 98 Wireless

ลุยโรดโชว์ต่างประเทศ

ในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ แสนสิริมีแผนโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศแถบเอเชีย ทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยเข้าร่วมงาน Thailand Focus วันที่ 31 ส.ค. และโรดโชว์ที่สิงคโปร์ วันที่ 20-22 ส.ค. รวมทั้งโรดโชว์ที่มาเลเซีย วันที่ 14-15 ก.ย. 2560 เพื่อให้นักลงทุนรับรู้ถึงแนวทางธุรกิจและการสร้างแบรนด์

“ครึ่งปีแรกมีผลประกอบการที่น่าพอใจ โดยเฉพาะไตรมาสที่ 2 มีกำไรสุทธิ 804 ล้านบาท เติบโตขึ้น 57.2% โดยรายได้หลักมาจากทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายปัจจุบัน ณ วันที่ 9 ส.ค. บริษัทมียอดขายรวมกว่า 18,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของเป้าหมายล่าสุดที่ปรับใหม่เป็น 40,000 ล้านบาท”

ที่สำคัญ แสนสิริมีแผนลงทุนจะรุกทำการตลาดอสังหาฯในต่างประเทศ เพื่อขยายฐานรายได้และสร้างผลกำไรที่เติบโตในอนาคต