พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยในงานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าจำนวน 15 โครงการ ที่เปิดให้บริการไปแล้ว 2 สาย มีสายสีม่วงช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และสายเขียวส่วนต่อขยาย 1 สถานีจากแบริ่ง-สำโรง และวันนี้ (6 ธ.ค.61) สามารถเปิดให้บริการตลอดสายถึงสมุทปราการ ระยะทางรวม 13 กม.
เป็นการให้บริการประชาชนในการเดินทางเดินทางจากเส้นทางเดิมให้ต่อเนื่องเชื่อมใจกลางเมืองกับปริมณฑล เป็นทางเลือกเพิ่มให้กับประชาชน ซึ่งรัฐบาลพยายามจะทำให้ทุกกลุ่มโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงการใช้บริการรถไฟฟ้าได้ในอัตราค่าโดยสารที่ไม่แพงมาก
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
“รถไฟฟ้าเป็นทางเลือกให้ประชาชนทางหนึ่ง การจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ไม่ใช่ว่ารัฐไม่ได้เอาใจใส่ ปัญหาสำคัญคือการเคารพกฎหมาย ต้องร่วมมือกัน พฤติกรรมการใช้รถของคนไทย การที่ลูกจะขึ้นรถไฟฟ้าไปโรงเรียนก็ไม่ได้ เพราะยังเล็กอยู่ ต้องจำเป็นต้องมีรถเพื่อเดินทางไปด้วยกันทั้งครอบครัว ทุกคนจำเป็นต้องใช้รถหมด ตอนนี้มีรถจดทะเบียนใหม่ 4 ล้านคัน ถนนก็ไม่เพียงพอ ต้องหาวิธีการมาแก้ปัญหา หารถไฟฟ้ามาเดินตรงมีปัญหารถติด ส่วนใหญ่หน้าโรงเรียน ศูนย์ราชการ พื้นที่กรุงเทพฯมีตั้ง 50 กว่าแยกต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ ขอบคุณทุกคน ทุกภาคส่วนที่ช่วยผลักดันรถไฟฟ้าสายนี้จนเปิดให้บริการ”
พลเอกประยุทธ์กล่าวอีกว่า การพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าเรียกว่าเป็นการปฎิรูประบบขนส่งทางรางเพื่อไปเชื่อมกับระบบอื่น เช่น ถนน รถไฟ จะมีการใส่ไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งหมดทำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯในจังหวัดอื่นก็มีความต้องการระบบขนส่งมวลชนเช่นกัน
“4 ที่ผ่านมารัฐบาลได้พัฒนารถไฟทางคู่เพิ่ม อีก 1,300 กม. เป็น 4,000-5,000 กม. นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาทางน้ำ ทางถนนที่สร้างถนนเพิ่ม 1,000 กม.”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานเสร็จแล้ว ได้นั่งรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุง (เดโป้)ไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ
ผู้สื่อถามนายกรัฐมนตรีว่ารู้สึกยังไงบ้างหลังได้ทดลองนั่งแล้ว ทางนายกรัฐมนตรีกล่าวตอบว่า “ผมยืน ไม่ได้นั่ง รู้แต่ว่าเย็นดี” จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพบปะกับประชาชนชาวพระประแดงและบางปูที่มานั่งรออยู่ภายในสถานี
โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามประชาชนว่าได้ลองใช้บริการรถไฟฟ้าหรือยัง เปิดให้บริการวันนี้วันแรกนะ ลองไปนั่งดู เป็นการเชื่อมการเดินทางระหว่างปริมณฑลผ่าเข้าเมืองสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเส้นทางรถไฟฟ้าแบบนี้จะเชื่อมแต่ละทิศทางเข้าด้วยกัน สิ่งสำคัญที่สุดต้องทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าให้ได้ก่อน จากนั้นก้มีฟีดเดอร์มาป้อนคนเข้าระบบ
ทั้งนี้การที่จะทำได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับประชาชนเจ้าของพื้นที่ด้วย ทุกอย่างต้องมีการใช้ที่ดินมาก่อสร้าง ซึ่งไม่ใช่ที่ดินหลวง เป็นของประชาชน ก็เข้าใจว่าไม่อยากเสียพื้นที่ตรงนี้ไป วันนี้ได้คุยกันแล้วให้ทางคมนาคมไปดูพื้นที่อาคารจอดแล้วจรที่สถานีมีพื้นที่มาก ด้านบนก็อาจจะพัฒนาเป็นแฟลตสำหรับผู้มีรายได้น้อยขึ้นมา และให้เช่า ให้ความสำคัญกับคนที่ย้ายออกไปก่อนหน้านี้ด้วย ต้องคิดแบบนี้ ถึงจะเรียกว่าเป็นการแก้ปัญหา
“การลงทุนโครงการต่างๆ ก็ต้องคำนึงถึงสัดส่วนการใช้งบประมาณให้ดี ซึ่งทุกโครงการอยู่ในกรอบงบประมาณอยู่แล้ว มีกฎหมายคุมทุกตัว ช่วง 4 ที่ผ่านมาเราใช้เงินพัฒนามากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำเรื่องรถไฟ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า ระบบบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ แต่ทั้งหมดไม่เกินสัดส่วนเพดานหนี้สาธารณะซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ 60% ถ้าเกินจากนี้อันตรายแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้ทำอยู่ที่ 41.7%”