ไนท์แฟรงก์ 20 ปี ชี้คอนโดเมืองกรุงปีนี้แตะ 6.5 หมื่นยูนิต กลุ่มราคาแพงราคาร่วงยกแผง ทำเลรอบนอกโต 7% ในรอบ 9 ปี

นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงก์ ชาร์เตอร์ ประเทศไทย กล่าวในโอกาสฉลอง 20 ปีการก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยว่า ประเมินตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปี 2018 มีซัพพลายใหม่ 65,000 ยูนิต และมีซัพพลายสะสมในรอบ 9 ปี (2010-3Q2018) จำนวน 434,623 ยูนิต

ในจำนวนนี้แบ่งเป็นซัพพลายสะสมในช่วง 9 เดือนแรก 2018 จำนวน 481,741 ยูนิต, เป็นดีมานด์สะสม 370,941 ยูนิต มีอัตราดูดซับ (ขายได้) 77%

ในด้านราคาเฉลี่ย แบ่ง 3 โซนหลักคือ ซีบีดีเฉลี่ยที่ 238,109 บาท/ตารางเมตร ลดลง -4.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า, โซนกรุงเทพชั้นใน 115,753 บาท/ตารางเมตร ลดลง -11.9% และโซนกรุงเทพรอบนอก 85,933 บาท/ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 7.6%

โฟกัสเซกเมนต์ห้องชุดไพร์มกับซูเปอร์ไพร์มในช่วง 9 เดือนแรก 2018 พบว่าอัตราดูดซับภาพรว 76.7% แบ่งเป็นห้องชุดไพร์มมีซัพพลาย 20,029 ยูนิต เทียบกับดีมานด์ 15,424 ยูนิต และห้องชุดซูเปอร์ไพร์ม มีซัพพลาย 8,853 ยูนิต ดีมานด์ 6,812 ยูนิต

ในด้านราคาพบว่าห้องชุดเกรด A เฉลี่ย 135,464 บาท/ตารางเมตร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% เทียบกับห้องชุดพรีเมี่ยมเฉลี่ย 205,315 บาท/ตารางเมตร ลดลง -2% และห้องชุดซูเปอร์พรีเมี่ยมหรือลักเซอรี่เฉลี่ย 297,975 ลดลง -11%

ทั้งนี้ เมื่อเทียบราคาต่อราคาพบว่า เซกเมนต์ซูเปอร์ไพร์มลดลง -11% เฉลี่ย 297,975 บาท/ตารางเมตร นับเป็นอัตราลดลงมากกว่าโซนซีบีดีทั้งโซนซึ่งติดลบ -4.1% เฉลี่ยที่ 238,109 บาท/ตารางเมตร ลดลง

โดยห้องชุดเกรด A ยังมีผลตอบรับที่ดี เฉลี่ยราคา 135,464 บาท/ตารางเมตร โดยสถิติยังเติบโตเป็นบวก 2% ในขณะที่ทำเลกรุงเทพฯ รอบนอกมีศักยภาพการเติบโตสูงสุด ดูจากมีอัตราดูดซับเพิ่มขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

แนวโน้มปี 2019 ตลาดชะลอตัวลงจากปีนี้ ผู้ประกอบการยังมีแนวทางปรับตัวโรดโชว์ขายลูกค้าต่างชาติทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ จีน มาเลเซีย แต่มีปัจจัยกดดันอยู่บ้างโดยเฉพาะตลาดจีนซึ่งมีอุปสรรคจากนโยบายรัฐบาลจีนห้ามนำเงินออกนอกประเทศเกินปีละ 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ

+++