รถไฟฟ้ารางเบา 1.3 แสน ล. นำร่องแก้รถติด “ภูเก็ต”

ยังคงต้องลุ้น จะเป็นเพียงแค่ผลการศึกษาหรือจะเกิดขึ้นได้จริง สำหรับเมกะโปรเจ็กต์แก้รถติดหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาค แต่ที่ผ่านมาสนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรมีการศึกษาโครงการมาอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิ..ที่ผ่านมา ที่ประชุมคจร.-คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกมีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นประธาน ได้รับทราบผลการดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะใน 5 เมืองภูมิภาค เพื่อแก้ปัญหาจราจรที่ติดขัด เป็นเงินลงทุนร่วม 131,525 ล้านบาท 

เริ่มจากภูเก็ตแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่า 12 ล้านคน ผลการศึกษาโครงการแล้วเสร็จเมื่อเดือน พ.. 2560 รูปแบบที่เคาะออกมาเป็นรถไฟฟ้ารางเบาหรือไลต์เรล เปิดเส้นทางสายใหม่จากสุราษฎร์ธานีพังงาภูเก็ต ระยะทาง 58.25 กม. เงินลงทุนทั้งโครงการ 39,406.06 ล้านบาท 

จุดเริ่มต้นอยู่สถานีรถไฟท่านุ่น จ.พังงา เชื่อมกับระบบรถไฟสายใหม่เส้นทาง จ.สุราษฎร์ธานี ถึง จ.พังงา ส่วนจุดสิ้นสุดโครงการอยู่ทางเหนือของห้าแยกฉลอง บน ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ห่างจากห้าแยกฉลอง ประมาณ 200 เมตร มี 24 สถานี เป็นสถานียกระดับ 1 สถานี ที่สนามบินภูเก็ต เป็นสถานีใต้ดิน 1 สถานี ที่สถานีถลาง และมีศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง บริเวณ อ.ถลาง

ล่าสุดโครงการได้ถูกบรรจุไว้ในโครงการตามมาตรการ PPP Fast Track ปี 2560 ของกระทรวงคมนาคม มีรฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการลงทุนและการก่อสร้างต่อไป แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 เฟส ระยะแรกจากท่านุ่นสนามบินภูเก็ต และระยะที่ 2 จากสนามบินภูเก็ตห้าแยกฉลอง 

ส่วนขอนแก่นจะเป็นรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบาเช่นกัน แนวเส้นทางเชื่อมการเดินทางแนวเหนือใต้ จากบ้านสำราญบ้านท่าพระ ระยะทางประมาณ 22.8 กม. มี 18 สถานี มีเทศบาลและภาคเอกชนในจังหวัดสนใจจะลงขันกันลงทุน 15,000 ล้านบาท หวังจุดประกายโครงการให้แจ้งเกิด 

โดยจัดตั้งบริษัท ขอนแก่น ทรานซิทซิสเต็มส์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เดินหน้าโครงการ ล่าสุดอยู่ระหว่างรอการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ

ขณะที่เชียงใหม่ผลการศึกษาคืบหน้า 90% จะแล้วเสร็จในเดือน ส.. 2560 รูปแบบโครงการที่เหมาะสมเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างเปรียบเทียบคัดเลือกแนวเส้นทางในเขตเมือง มี 3 เส้นทาง ระหว่าง เป็นทางวิ่งบนดิน และใต้ดินร่วมกันเงินลงทุนรวม 106,895 ล้านบาท และทางวิ่งบนดินทั้งหมด เงินลงทุนรวม 28,419 ล้านบาท 

ได้แก่ 1.สายสีแดงโรงพยาบาลนครพิงค์ศูนย์ราชการเชียงใหม่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีศูนย์ประชุมนานาชาติสถานีตำรวจช้างเผือกแยกข่วงสิงห์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่สถานีขนส่งช้างเผือกโรงพยาบาลเชียงใหม่รามโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่..วัฒโนทัยพายัพสนามบินเชียงใหม่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีหางดง 

2.สายสีเขียวแยกรวมโชคแยกแม่โจ้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลสถานีขนส่งอาเขตโรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่..ดาราวิทยาลัย..ปรินส์รอแยลส์วิทยาลัยตลาดวโรรส (กาดหลวง)-เทศบาลนครเชียงใหม่ย่านเชียงใหม่ไนท์บาซาร์..เรยีนาเชลีวิทยาลัย..พระหฤทัย..มงฟอร์ตวิทยาลัยเชียงใหม่แลนด์ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงใหม่แอร์พอร์ตมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นสนามบินเชียงใหม่

และ 3.สายสีน้ำเงิน สวนสัตว์เชียงใหม่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่แยกตลาดต้นพยอมรพ.มหาราชนครเชียงใหม่วัดพระสิงห์วรมหาวิหารประตูท่าแพย่านเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ตลาดสันป่าข่อยสถานีรถไฟเชียงใหม่แยกหนองประทีปห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีดอนจั่นห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาดา

สำหรับนครราชสีมาประตู่สู่ภาคอีสาน ผลศึกษาใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเบา เป็นระบบหลักในการเดินทางและมีระบบรถโดยสาร (Bus Technology) เป็นระบบรอง เงินลงทุนรวม 32,600 ล้านบาท 

ผลการศึกษาจะแล้วเสร็จเดือน ส..นี้ แบ่งเป็น 3 เฟส ระยะแรก เงินลงทุน 14,000 ล้านบาท มีสายสีส้มเข้มแยกประโดกถนนช้างเผือกคูเมืองเก่า ระยะทาง 9.81 กม. จำนวน 17 สถานี และสายสีเขียวเข้มตลาดเซฟวันถนนมุขมนตรีสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทาง 11.17 กม. จำนวน 18 สถานี

ระยะที่ 2 เงินลงทุน 4,900 ล้านาท มีสายสีม่วงเข้มตลาดเซฟวันถนนมิตรภาพสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทาง 11.92 กม.จำนวน 9 สถานี 

และระยะที่ 3 เงินลงทุน 13,600 ล้านบาท มีสายสีส้มอ่อนโรงเรียนเทศบาล 1-หัวทะเลดูโฮม ระยะทาง 5.37 กม. จำนวน 4 สถานี สายสีเขียวอ่อนสถานีทดลองการใช้น้ำชลประทานที่ 3 (ห้วยบ้านยาง)-ตลาดเซฟวัน และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา สาขา 2 ระยะทาง 12.12 กม. จำนวน 13 สถานี และสายสีม่วงอ่อนมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลแยกจอหอค่ายสุรนารายณ์ ระยะทาง 4.48 กม. จำนวน 3 สถานี 

ด้าน.หาดใหญ่.สงขลา ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นผู้ศึกษาเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล เริ่มจากคลองหวะสถานีรถตู้ ระยะทาง 12.54 กม. มีสถานี 12 สถานี มูลค่าลงทุน 16,100 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับแก้รายงานอีไอเอ 

บึงกาฬจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย เป็นอีกจังหวัดที่ สนข.ให้ความสำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีแผนแม่บทด้านขนส่งและจราจร เพิ่งจะเริ่มนับหนึ่งเปิดรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของคนในพื้นที่เมื่อวันที่ 27 .. 2560 ที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลจัดทำแผนแม่บทต่อไป 

ในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการลงทุนและการท่องเที่ยว หลังประเมินศักยภาพจังหวัดที่มีทำเลที่ตั้งมีพรมแดนติดกับ สปป.ลาว เป็นระยะทาง 330 กม. รวมถึงมีจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่งที่ด่านศุลกากรบึงกาฬ ตรงข้ามกับเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว