25 ปีเฮเฟเล่แจกรถปอร์เช่-ทองคำ เริ่ม 1 ก.พ.-15 พ.ย.นี้ ลงทุนเพิ่ม 700 ล้านรีโนเวตสาขาทั่วปท.

นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าปี 2562 เป็นปีแห่งการพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จ แผนธุรกิจปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 4,000 ล้านบาท เติบโต 10% เทียบกับปีที่แล้วมียอดขายอยู่ที่ 3,700 ล้านบาท และมีแผนลงทุนเพิ่ม 700 ล้านบาท เพื่อรีโนเวตโชว์รูมและสาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เฮเฟเล่ ประเทศไทยมียอดขายอันดับ 1 ในเอเชีย เหนือญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ อินเดีย และมียอดขายอันดับ 3 ของเฮเฟเล่กรุ๊ปทั่วโลก

โดยไฮไลต์กิจกรรมการตลาดปี 2562 บริษัทจัดแคมเปญฉลองครบรอบ 25 ปีแห่งความผูกพันในการทำตลาดเมืองไทย เริ่ม 1 กุมภาพันธ์-15 พฤศจิกายน 2562 สำหรับลูกค้าที่ช็อปซื้อสินค้าเฮเฟเล่ ลุ้นรับรางวัลรถปอร์เช่, ทองคำน้ำหนักรวม 25 บาท, รางวัลอื่นๆ 201 รางวัล

สำหรับการลงทุน ล่าสุดบริษัทเพิ่งใช้งบ 450 ล้านบาท ขยายแวร์เฮาส์ขนาด 14,000 ตารางเมตร ที่ถนนบางนา-ตราด เริ่มตอกเข็มก่อสร้างเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 คาดการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เป็นแผนลงทุนเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับเฮเฟเล่

โดยแวร์เฮาส์สร้างใหม่จะเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้กับโชว์รูม 6 แห่ง ได้แก่ โชว์รูมในกรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 64 กับบางโพธิ์ และโชว์รูมต่างจังหวัดในพัทยา, หัวหิน, ภูเก็ต, เชียงใหม่

กลุ่มสินค้าขายดี ประกอบด้วย อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ สัดส่วน 50% อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ 30% เครื่องใข้ไฟฟ้าในครัว อุปกรณ์ครัว สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ 15% อุปกรณ์ช่างและเครื่องมือ 5%

ADVERTISMENT

ในด้านช่องทางจัดจำหน่าย ยังขายผ่านช่องทางออฟไลน์ 99.9% แต่ริเริ่มทำช่องทางออนไลน์มากขึ้นตั้งแต่ปีนี้และต่อไปในอนาคต ปัจจุบันมีช่องทางขายผ่านร้านตัวแทนจำหน่าย 4% โมเดิร์นเทรด 20% ลูกค้าโครงการ 25% และโชว์รูม 10%

สำหรับปีนี้ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไป มองว่า เมืองไทยกับเศรษฐกิจไม่ได้ไปด้วยกันเท่าไหร่ จากประสบการณ์เคยบริหารในอินโดนีเซียเวลาการเมืองร้อนแรงมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจพอสมควร แต่เมืองไทยการเมืองก็คือการเมือง ภาคธุรกิจยังไปต่อได้ตามสภาพ

ADVERTISMENT

“ประสบการณ์ลงทุนในเมืองไทย 25 ปี บรรยากาศเมืองไทยค่อนข้างสันติ โดยเข้ามาลงทุนในยุค IMF ขณะเดียวกัน ภาคการส่งเสริมก็ถือว่าแฟร์ เฮเฟเล่เป็นบริษัทเเล็กที่ไ่ม่ได้ต้องการให้รรัฐบาลซัพพอร์ต มีการจ่ายภาษีเต็มจำนวน”

นายรัตนา พูนสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยนิยมซื้อสินค้าพรีเมี่ยมมากขึ้น สะท้อนผ่านยอดขายในประเทศไทยติดอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 3 จากเครือข่ายสาขาเฮเฟเล่ทั่วโลก 42 ประเทศ รองจากอเมริกา อังกฤษ และมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายใน 150 ประเทศทั่วโลก

ปีนี้กลยุทธ์การแข่งขันมีฐานลูกค้าหลัก 3 กลุ่ม คือ ลูกค้าโครงการ (คอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน), ลูกค้ารีเทล (ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย โมเดิร์นเทรด), ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม (เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น)

โดยบริษัทวางแผนขยายลูกค้าเป้าหมายเพิ่ม 2 กลุ่มคือ ลูกค้าช็อปปิ้งออนไลน์กับลูกค้ารักสุขภาพ (health & care) ที่ต้องการสินค้าเกรดพรีเมี่ยม เช่น โรงพยาบาล คลีนิค ตลาดผู้สูงวัย ตลาดสถานพักฟื้น ฯลฯ)

“ยอดขาย B to B มีสัดส่วน 95% อีก 5% กำลังริเริ่มทำ B to C โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์”