รถไฟชงบอร์ดเคาะชื่อ”ซีวิล เอ็นจิเนียริ่ง”สร้างไฮสปีดไทย-จีนตอน2 ปลายปีปิดจ็อบประมูลทางคู่4เส้น3แสนล้าน

แฟ้มภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา งานสัญญาที่ 2-1 งานโยธาสำหรับช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. ราคากลาง 3,350.475 ล้านบาท หลังจากเปิดให้มีการคัดเลือกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) และมี บจ.ซีวิล เอนจิเนียริ่ง เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดนั้น จะเสนอให้คณะกรรมการรร.ฟ.ท. (บอร์ดรถไฟ) พิจารณาวันที่ 8 ก.พ.นี้

@เม.ย.-พ.ค.ประมูลสัญญา 3

โดยจะมีการรับรองผู้ชนะในสัญญาดังกล่าวด้วย และจะมีการประกาศราคาที่เสนอต่ำสุดในวันเดียวกัน จากนั้นก็จะเข้าสู่การร่างสัญญาเพื่อลงนามก่อสร้างต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ส่วนตอนที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 119.5 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วง เม.ย.-พ.ค.นี้

ส่วนความคืบหน้าโคงการก่อสร้างตอนที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. เงินลงทุน 425 ล้านบาท ที่มีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้รับผิดชอบ ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 60% กำหนดการแล้วเสร็จยังวางไว้ที่กลางปีนี้ตามเดิม โดยอยู่ระหว่างการทดสอบความแข็งแรงของคันทางตามมาตรฐานทางวิศวกรรมของประเทศจีน เพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุด ความคืบหน้าของโครงการจึงล่าช้าออกไปบ้าง เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีประสบการณ์ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงมาก่อน

@เร่งทางคู่ 4 สายประมูลปลายปีนี้

รักษาการผู้ว่า ร.ฟ.ท. กล่าวต่อว่า ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ในส่วนของโครงการรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. เงินลงทุน 85,345 ล้านบาท หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติไปเมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างพระราชกฤษฎีกา เวนคืนที่ดิน เพราะเป็นรถไฟเส้นทางใหม่ การรถไฟฯ ต้องเวนคืนเพิ่มเพื่อทำเส้นทางใหม่ 323 กม.

เช่นเดียวกับโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. เงินลงทุน 6.79 หมื่นล้านบาท ที่ต้องดำเนินการเวนคืนที่ดิน เพื่อดำเนินการก่อสร้างเป็นเส้นทางใหม่รวมกว่า 300 กม.

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ระยะทาง 167 กม. เงินลงทุน 26,647 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี ระยะทาง 307 กม. เงินลงทุน 37,523.61 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือบอร์ดสภาพัฒน์ ก่อนเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าทั้ง 4 โครงการจะสามารถเปิดประมูลก่อสร้างได้ประมาณปลายปีนี้