ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร เป็นผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งนับเป็นผู้อำนวยการ กทท. คนที่ 18 และเป็นคนในที่มาจากการคัดสรรคนใหม่
เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2504 ปัจจุบันอายุ 57 ปี เป็นรองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
จบการศึกษา ปริญญาบัตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ปี 2556 หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชนและปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกลเรือ จากโรงเรียนนายเรือ รุ่นที่ 78
เข้าทำงานที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2529 คู่สมรสชื่อ นางอัฌนา พรหมประยูร อายุ 55 ปีปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารทรัพยากรบุคคลและบรรษัทภิบาล มีบุตร 1 คน น.ส. พิธุนิภา พรหมประยูร อายุ 24 ปี จบการศึกษา ปริญญาตรี อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปัจจุบันศึกษาต่อในระดับปริญญาโท
สำหรับ ”เรือโทกมลศักดิ์” ดำรงตำแหน่งที่สำคัญในการท่าเรือแห่งประเทศไทย
พ.ศ. 2546 ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองบริการท่า ฝ่ายบริการท่าและเครื่องมือทุ่นแรง ท่าเรือกรุงเทพ
พ.ศ. 2547 ดำรงตำแหน่ง นักบริหาร 13 ประจำท่าเรือกรุงเทพ
พ.ศ. 2548 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริการท่าและเครื่องมือทุ่นแรง ท่าเรือกรุงเทพ
พ.ศ. 2550 ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 15 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ที่ท่าเรือกรุงเทพ
ตุลาคม 2551 ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ
28 ธันวาคม 2554 ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 16ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย
1 ตุลาคม 2555 ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายวิศวกรรม
1 ตุลาคม 2557 –ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ
ผลงานที่สำคัญ
1.พัฒนาการดำเนินโครงการ e-port Service ด้วยการใช้ CTMS และ VCMS CCTV E-gate และ E-TOLL
มาใช้ในงานของท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง
2.บริหารจัดการการใช้ระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในท่าเรือกรุงเทพและจัดให้มีศูนย์ปลอดภัยคมนาคม
กทท. เป็นครั้งแรก
3.แก้ไขปัญหาการใช้ระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (National Single Window – NSW) กับกรมศุลกากร ในการเชื่อมข้อมูล e-Manifest ให้สามารถใช้งานได้ตามกำหนดเวลาของกรมศุลกากรซึ่งขณะนั้นงานระบบ e-Customของท่าเรือกรุงเทพที่เช่าใช้งานสำหรับ NSW ในปี 2551 จากบริษัทมีปัญหาการฟ้องร้องเป็นคดีในชั้นศาล ณ ปัจจุบัน
4.บริหารจัดการโครงการจัดหาเรือขุดลอก กทท. ให้มีเรือขุดแบบ Clutter Dredger มาใช้งานเพิ่มประสิทธิภาพ ในการขุดลอกหน้าท่าของท่าเรือกรุงเทพ
5.เจรจาความร่วมมือกับท่าเรือต่างประเทศเช่นรัฐบาลท้องถิ่นแคว้นสิบสองปันนาของสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับท่าเรือกวนเหล่ยให้มีการขนส่งระบบตู้คอนเทนเนอร์อาหารไก่แช่แข็งในลำน้ำโขงซึ่งได้มีการเปิดเดินเรือเที่ยวปฐมฤกษ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 เป็นผลสำเร็จ
6.วางแผนปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของท่าเรือระนองให้สามารถรับเรือขนาดใหญ่ได้พร้อมกัน 2 ท่าเทียบเรือ
รับเรือขนาด 1,000 DWT. เป็น 12,000 DWT และคราวประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ชุมพรเพื่อพิจารณา
ปรับปรุงประสิทธิภาพท่าเรือระนองขยายขีดความสามารถรองรับตู้สินค้าสูงจาก 70,800 TEUs/ปี เป็น
500,000 TEUs/ปี โดยสร้างท่าเทียบเรือคอนเทนเนอร์ใหม่ 1 ท่า และขยายพื้นที่วางตู้หลังท่าอีก 75,000
ตารางเมตร ระหว่าง Jetty และคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร
ระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2561
7.เป็นรองประธานคณะทำงานการเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีของ International Maritime Organization (IMO) ร่วมรณรงค์หาเสียงกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านเอกอัครราชทูตประจำกรุงลอนดอน อธิบดีกรมเจ้าท่า และรักษาการแทนผู้อำนวยการ กทท. จนได้รับการโหวตจากประเทศสมาชิกฯ ให้ประเทศไทย ได้เป็นสมาชิกสมัชชา IMO ในกลุ่ม C ซึ่งมีจำนวนประเทศที่เป็นสมาชิกได้จำนวน 20 ประเทศ มีประเทศ ที่สมัครจำนวน 25ประเทศ และประเทศไทยได้รับการลงคะแนนเสียงได้เป็นลำดับที่ 16
8.เป็นหัวหน้าคณะทำงานประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ (Cruise Tourism) และทำหน้าที่
ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการที่จะกำหนดนโยบาย
และยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ
การประชุมและสัมมนาที่สำคัญ
1.ประชุมเจรจาธุรกิจและเยี่ยมชมศูนย์กระจายสินค้า ณ ด่านสิงขร จังหวัดมะริด สหภาพเมียนมาร์
2.เดินทางเข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยและท่าเรือปูซาน
สาธารณรัฐเกาหลี
3.เข้าร่วมการประชุม Joint Working Group ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือปูซานและบริษัทที่ปรึกษาโครงการพัฒนาท่าเรือปูซาน
4.โครงการศึกษาการพัฒนาธุรกิจในท่าเรือที่เกี่ยวเนื่องภายใต้โครงการ iPas ศึกษาแนวทางการพัฒนา
การให้บริการ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน
5.การประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยทางทะเล ครั้งที่ 98 ณ สำนักงานใหญ่ IMO กรุงลอนดอน
สหราชอาณาจักร ราชอาณาจักรสวีเดน และราชอาณาจักรเดนมาร์ก
6.การตรวจราชการการขนส่งสินค้าทางลำน้ำและระบบการเชื่อมต่อโครงข่ายเส้นทางถนนและศึกษาดูงาน
เส้นทางการขนส่งสินค้าผ่านแดน สหภาพเมียนมาร์
7.เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนท่าเรือไทยในการประชุมสมาคมท่าเรืออาเซียน (Asean Ports Association : APA)ระหว่างปี 2557-2559
8.เข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการขนส่งอาเซียน ASEAN Senior Transport Officials Meeting : STOM) และรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ASEAN Transport Ministers : ATM) ระหว่างปี 2557-2559
9.ศึกษาดูงานหลักสูตรผู้นำ 4.0 ด้วยต้นแบบนวัตกรรมการบริหารประเทศ คลัง 4.0 ประเทศญี่ปุ่น
10.เดินทางไปปฏิบัติงานตามแผนการส่งเสริมการใช้บริการท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ท่าเรือกวนเหล่ย
สาธารณรัฐประชาชนจีน
11.เดินทางไปเข้าร่วมงาน Seatrade Cruise Global 2018 ณ เมือง Fort Lauderdale เมืองฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
12.การประชุม International Conference on Inland Water Transport ณ เมือง Wroclaw สาธารณรัฐโปแลนด์
กิจกรรมสาธารณประโยชน์
1.เป็นประธานกรรมการบริหารการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาเปตอง “ท่าเรือโอเพ่น” เพื่อสืบสาน
ปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและการดำเนินการเชิงรุกกีฬาเปตองของการท่าเรือ
แห่งประเทศไทย
2.เป็นประธานที่ปรึกษาบริหารการดำเนินการสร้างฝายประชารัฐของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
3.เป็นประธานกรรมการกีฬากอล์ฟการท่าเรือแห่งประเทศไทย
4.ส่งเสริมโครงการกีฬาชุมชนสามัคคีต่อต้านยาเสพติดในพื้นที่โดยรอบการท่าเรือแห่งประเทศไทย
5.ส่งเสริมโครงการมอบอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล
6.ส่งเสริมโครงการการอบรมวิชาชีพให้แก่ผู้ยากไร้เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ที่มีสถานะทางสังคมที่ด้อยโอกาส