แปะไว้! ปลัดคมนาคมเปิดโผโปรเจ็กต์ยักษ์ 1.8 แสนล้าน พาเหรดเสนอครม.อนุมัติ มี.ค.นี้

ปลัดคมนาคมอัพเดตโปรเจ็กต์เข้า ครม. รถไฟฟ้าสายสีแดง 3 เส้น ดันรันเวย์ 3 มอบ ทอท.ตัดทางขับออกคิดวงเงินใหม่ แนะจะดันเทอร์มินัล 2 ต่อให้ทำหนังสือแจงมา ขณะที่ทางคู่เตรียมเสนอสภาพัฒน์เคาะ 3 เส้น ไม่ชัวร์ลงนามสัญญา 2.3 ไฮสปีดไทยจีนได้ในวงประชุมครั้งที่ 27

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการที่มีแนวโน้มจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงนี้จนถึงเดือน มี.ค. คิดเป็นมูลค่า 186,412 ล้านบาท มีโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง 3 เส้นทาง ได้แก่ สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต – ม.ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 8.84 กม. เงินลงทุน 6,500 ล้านบาท สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 14.8 กม. เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช 5.7 กม. เงินลงทุน 7,500 ล้านบาท

โดยช่วงรังสิต – ม.ธรรมศาสตร์ และช่วงตลิ่งชัน – ศาลายา อยู่รอบรรจุวาระเพื่อให้ ครม.พิจารณา ส่วนช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) มีข้อแนะนำให้ตัดการก่อสร้างโรงซ่อมหัวรถจักร ทดแทนโรงรถจักรธนบุรีเดิม เงินลงทุนประมาณ 830 ล้านบาท ออกจากแผนงาน ขณะนี้คณะกรรมการ ร.ฟ.ท. (บอร์ดรถไฟ) ได้รับทราบถึงข้อคิดเห็นดังกล่าว และได้ส่งเรื่องมาให้กระทรวงเรียบร้อยแล้ว เพื่อเสนอ ครม.ต่อไป

@ลุยรันเวย์ 3

ถัดมาคือ โครงการทางวิ่งที่ 3 (Runway 3) ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เงินลงทุน 2.2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างพิจารณาปรับทางขับ (Taxi Way) ออกไปก่อน เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 (Terminal 2) เงินลงทุน 42,000 ล้านบาท ซึ่งยังมีปัญหาถูกวิพากษ์วิจารณ์ และที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (บอร์ด ทอท.) เพิ่งมีมติทบทวนโครงการใหม่ จึงต้องตัด taxi way ออกไปก่อน การเสนอ ครม.จะเร็วหรือช้าก็ถึงอยู่กับขั้นตอน ในเบื้องต้น ยังตอบไม่ได้ว่าจะเสนอได้เมื่อใด

“โครงการ Terminal 2 หาก ทอท.ยังยืนยันจะดำเนินการต่อจะต้องไปทำความเห็นเพิ่มเติม แล้วนำกลับมาเสนอให้กระทรวงพิจารณาว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ตอนนี้ ทอท.กำลังรีวิวแบบก่อสร้างใหม่ทั้งหมด โดยจะไปสอบถามบรรดาผู้เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น สายการบินที่ให้บริการในสนามบิน และผู้ให้บริการคาร์โก้ เป็นต้น มีความต้องการหรือแบบใดเป็นพิเศษ”

@ลุ้นสภาพัฒน์เคาะ 3 ทางคู่อีสานใต้

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ที่มีแนวโน้มจะเสนอให้ ครม.พิจารณายังคงเป็น 3 เส้นทางในภาคอีสาน ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี ระยะทาง 307 กม. เงินลงทุน 37,523 ล้านบาท, ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ระยะทาง 167 กม. เงินลงทุน 26,654 ล้านบาท และ 3.ช่วงบ้านไผ่ – นครพนม ระยะทาง 354 กม. เงินลงทุน 67,965 ล้านบาท

โดยช่วงบ้านไผ่ – นครพนม กำลังจัดวาระเสนอ ครม. ส่วนอีก 2 เส้นทางอยู่ระหว่างเสนอให้บอร์ดสภาพัฒน์พิจารณา ล่าสุดจะมีอีกสายหนึ่งที่จะเสนอเข้าบอร์ดสภาพัฒน์เพิ่มเติมคือ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กม. เงินลงทุน 8,000 ล้านบาท เมื่อผ่านบอร์ดสภาพัฒน์คาดว่าจะสามารถเสนอทั้ง 3 เส้นทางให้ครม.เห็นชอบได้ในเดือน มี.ค.ต่อไป

@เล็งลงนามงานระบบรถไฟไทย-จีน

ส่วนการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (JC) ครั้งที่ 27 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค.นี้ ประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือ คือ การเจรจาเพื่อลงนามในสัญญา 2.3 ระบบการวางราง การเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ เงินลงทุน 38,558.35 ล้านบาท และโปรแกรมฝึกอบรมต่างๆ แต่จะสามารถลงนามในสัญญา 2.3 ได้เลยหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาผลการหารือที่จะได้ในวันนั้นก่อน อย่างไรก็ตาม จะพยายามลงนามให้ได้ในวันประชุม