ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าเมื่อเวลา 09.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลงพื้นที่ติดตามดูความคืบหน้าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต และโครงการสถานีกลางบางซื่อ
โดยรับฟังบรรยายสรุปความก้าวหน้าในการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ จากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากนั้นจึงเดินชมพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ทั้ง 3 ชั้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
@บิ๊กตู่แนะสื่อกระจายข่าวดี
เมื่อเดินชมเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ทีมงานเข้ามาถ่ายรูป ก่อนที่จะหันมาทางผู้สื่อข่าวแล้วกล่าวว่า
“ขอร้องสื่อมวลชนช่วยเผยแพร่สิ่งดีๆ บ้างนะ สิ่งนี้เกิดขึ้นมาในช่วง 5 ปีนี้ ถ้าไม่ทำไว้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น พื้นที่ของสถานีกลางบางซื่อรวมกว่า 800 ไร่ ไหนใครบอกว่าจะยกที่ตรงนี้ให้เอกชนไปหมด เรายกให้เป็นโซนๆ เท่านั้นเอง แถมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ด้วย ถ้ารวมสวนสาธารณะอีก 3 แห่งที่อยู่ใกล้ๆ นี้ (สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนวชิรเบญจทัศ สวนจตุจักร) จะทำให้มีพื้นที่ทั้งหมดรวมแล้วถึง 2,000 ไร่เลยทีเดียว”
@ยันไม่เอื้อประโยชน์ดิวตี้ฟรี
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงท่าทีรัฐบาลต่อกรณีการเดินหน้าประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) โดยพลเอกประยุทธ์ตอบว่า กำลังหารือกันถึงรูปแบบการประมูลที่เหมาะสมอยู่ เรื่องนี้ต้องดูหลายภาคส่วนทั้งเรื่องผู้บริโภค รายได้ของประเทศ และผู้ประกอบการ เพราะต้องดูแลซึ่งกันและกัน
“แต่รับรองว่ารัฐบาลจะไม่เอื้อประโยชน์ให้ใครแน่นอน ทุกอย่างว่ากันตามกฎหมาย“
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยังกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไป
@สถานีกลางบางซื่อเสร็จ พ.ย.62
ด้านนายอาคมให้สัมภาษณ์ว่า สถานีกลางบางซื่อจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนการเปิดให้บริการ นายกรัฐมนตรีกำชับว่า งานไหนที่เร่งรัดได้ก็ให้เร่งรัดให้เสร็จ ส่วนสายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต และบางซื่อ – ตลิ่งชัน อยู่ระหว่างติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ส่วนขบวนรถใหม่จะเข้ามา 2 ขบวนแรกในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อทดสอบระบบ และจะทยอยเข้าอีกในช่วงต้นปีหน้า คาดว่าจะทดสอบเดินรถเต็มระบบได้ในเดือน มิ.ย. 2563
“นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ไปเพิ่มเติมในเรื่องของการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้ามาใช้งานพื้นที่ภายในสถานีกลาง”
@ยังไม่ฟันธงรูปแบบเชื่อมสายสีเขียว
ทั้งนี้กระทรวงจึงได้ชี้แจงไปว่า เบื้องต้นการเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้เคียง 2 ระบบ คือ ระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ และรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีหมอชิต สำหรับสถานีบางซื่อขณะนี้ได้เจาะอุโมงค์เพื่อเชื่อมเส้นทางเสร็จแล้ว เหลือเพียงรอเปิดเท่านั้น
ขณะที่สถานีหมอชิตยังไม่สรุป เพราะมี 2 แนวทางที่กำลังตัดสินใจอยู่คือ 1.สร้าง Sky Walk ระยะทาง 1 กม. และ 2.ทำระบบขนส่งภายในพื้นที่ ยังไม่สรุปว่าจะทำเป็นรถเมล์หรือโมโนเรล ยังต้องหารือกัน ส่วนจะเก็บค่าโดยสารหรือไม่ก็ยังไม่ได้สรุป โดยจะมี ร.ฟ.ท.เป็นผู้ลงทุนและตัดสินใจ
“ได้เรียนท่านนายกฯไปว่า สถานีกลางบางซื่อจะไม่เหมือนกับสถานีหัวลำโพงแน่นอน เราจะมีการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นโซนๆ สำหรับพื้นที่แปลง A เสนอคณะกรรมการ PPP แล้ว ส่วนโซนอื่นๆ อยู่ในขั้นตอนการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน และบริเวณนี้จะมีสวนสาธารณะ 700 ไร่ด้วย ส่วนการพัฒนาโครงสร้างอื่นๆอาจจะมีการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนเรื่องระบบไฟฟ้าภายในสถานีกลางด้วย”
นอกจากนี้ นายอาคมเปิดเผยอีกว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กม. เงินลงทุน 120,459 ล้านบาท ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ด PPP) แล้ว เหลือเพียงเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ส่วนจะเสนอได้เมื่อไหร่ต้องไปถามบอร์ด PPP
@ฉุนถาม ตปท.ห่วงล้มไฮสปีด 3 สนามบิน
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ถามในช่วงท้ายว่า พันธมิตรต่างประเทศของกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และพันธมิตร หรือกลุ่มซี.พี.มีข้อกังวลว่าโครงการอาจจะมีการรื้อใหม่หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลเหมือนกรณีประเทศมาเลเซียที่มีการล้มโครงการรถไฟความเร็วสูงไปก่อนหน้านี้นั้น ซึ่งนายอาคมตอบว่า
“ไม่มี ช่วยถามอะไรที่ช่วยกันสร้างสรรค์เดินหน้าหน่อย สื่อทำไมชอบถามแบบนี้ นายกรัฐมนตรีก็เพิ่งบอกอยู่ว่า ให้ถามในสิ่งที่ทำให้โครงการเดินหน้าได้ ทุกอย่างทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและเพื่อความสะดวกในการเดินทางทั้งหมด”
