ชานนท์ เรืองกฤตยา ซีอีโออนันดา เปิดมุมมองในตัวตนใหม่ “ธรรมะ” หล่อหลอมชีวิต-ธุรกิจ

ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

วันเวลาหมุนเปลี่ยนตามกาลเวลา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน มีรอบวงจร “ขึ้น-ลง” และ “รวย-จน” ตามจังหวะ

“ชานนท์ เรืองกฤตยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซีอีโอคนรุ่นใหม่ของวงการ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงมุมมอง ชีวิต ธุรกิจ และการเมือง

ดูเขาเข้าใจถ่องแท้ถึงสัจธรรม ลดอัตตา เข้าหาธรรมชาติหล่อหลอมจุดแข็งของเทคโนโลยีที่สุดล้ำ กับ “ธรรมะ” ที่สงบนิ่ง ทำให้ค่ายอนันดาฯในวันนี้ ดูยืดหยุ่น กลมกลืน และกลมกล่อม

ในรูปแบบ digital urban lifestyle ที่มีลักษณะเฉพาะ เป็น “แบรนด์” คนรุ่นใหม่ที่เชื่อใน “วิสัยทัศน์” และ “รสนิยม” 

ชีวิตทุกวันนี้

ดีครับ ทำทุกอย่างปกติ ทำงานเป็นหลัก ปีนี้คงผ่อนลง ให้เวลากับครอบครัว ให้รางวัลกับตัวเอง ภรรยาก็ถาม วันเกิดยูอยากได้อะไร ก็บอกไปว่า ไม่อยากได้อะไร (ยิ้ม) แต่อยากไปสัมผัสธรรมชาติ ชอบทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง ที่ชอบก็คือหมู่เกาะสุรินทร์ เคยไปแล้วชอบมาก แต่ไปครั้งที่สอง สภาพเปลี่ยนไป (หน้าเศร้า) ผมจึงคิดตลอดว่า เราจะช่วยดูแลธรรมชาติได้ยังไงบ้าง ก็ทำอยู่เรื่องซีเอสอาร์เชิงลึกเข้าถึงชุมชน

ดูธรรมะธัมโมมากขึ้น

(ยิ้มก่อนตอบ) ปกตินั่งสมาธิทุกวันอยู่แล้ว ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ รู้สึกดีที่ได้ทำ ช่วยให้เรามีสติ ทำธุรกิจอสังหาฯก็เครียด คนอาจไม่เข้าใจ แต่มีสมาธิแล้วเราก็มีสติ ทำให้งานดำเนินไปด้วยดี

ภาพรวมตลาดอสังหาฯปีนี้ 

ถือเป็นยุคของผู้ซื้อ ใครกำลังมองหาซื้อบ้าน ซื้อเลยครับ ผู้ประกอบการอยากขายมาก (หัวเราะ) คุณจะต่อรองกับดีเวลอปเปอร์ได้เลย เพราะลูกค้าเป็นใหญ่ ใครสต๊อกเยอะก็ปล่อยของถูก ของอนันดาฯมีบ้าง แล้วแต่ทำเล แต่เราไม่ได้หั่นราคาแหลก เพราะไม่ใช่นโยบายเรา รอบธุรกิจหมุนอยู่แต่หมุนช้า

อย่างทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) เป็นพอร์ตที่เหนื่อยมากสำหรับเรา ยังมีสต๊อกเหลือขายมาก การขายยังไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็ต้องเดินหน้า ต้องจัดโปรโมชั่นลด แจก แถม ตามสภาพตลาด แต่ไม่ได้ลดมากเหมือนรายอื่น ๆ

ภาระหนี้ของผู้ประกอบการ 

ผมว่าเจ้าที่อยู่บน ๆ ไม่อันตรายเท่าไหร่ แต่รายเล็ก ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯน่าเป็นห่วงกว่า ยุคนี้หนี้ไม่ได้สูงจนน่ากลัว อย่างสิ้นปีที่แล้วเราปิดบัญชีเก็บเงินสดได้ 14,000 ล้านบาท ทุกคนเก็บเงินสดหมด เหมือนเป็นเสบียง บริษัทโตต่อเนื่อง แต่วินัยการเงินเข้มงวด หนี้สินต่อทุนคือ 1 : 1

ผลกระทบ LTV ปล่อยกู้เรียลดีมานด์ไม่ได้ 100%

เท่าที่เรารีเสิร์ช แบงก์บอกว่ามีผลกระทบ 8-20% มิดพอยต์ที่โดนเอฟเฟ็กต์ 5% ซึ่งไม่ได้น่ากลัวอะไร จริง ๆ ในรายละเอียดมีเรื่องหลัง 2 หลัง 3 แล้วหลังที่เกิน 10 ล้านบาท

ถามว่าจะเห็นการปล่อยกู้ 100% ในบ้านหลังแรกอีกไหม นี่เป็นกฎของแบงก์ชาติ ฝืนไม่ได้ ทุกค่ายต้องหากลยุทธ์ ของเราก็หาวิธีอยู่

แต่จริง ๆ สังคมเราโดนสปอยล์ การซื้ออสังหาฯควรมีเงินดาวน์ อย่าคิดว่าซื้อบ้านไม่มีดาวน์ ผมว่าแปลกนะ ส่วนตัวผมสนับสนุนแบงก์ชาติ เราโดนสปอยล์มามากแล้ว สินเชื่อในระบบ ต้องเข้าใจว่า ผู้ใหญ่ทำอะไร อย่าบ่นสิ ต้องพยายามปฏิบัติตามให้ได้ ระบบจะได้มั่นคงกว่านี้

ทุกวิกฤตที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะเราชอบเล่นอะไรแปลก ๆ ต้องมองระยะยาว อย่าหวือหวา ซื้อบ้านดาวน์ 10% ไม่แปลกเลย

บ้านเราแบงก์ชาติยังให้เวลาปรับตัว แต่ประเทศอื่นไม่ให้เลยนะ อย่างสิงคโปร์ ประกาศตอนตลาดหลักทรัพย์ปิดแล้ว มีผลวันจันทร์เช้า แสดงว่าคืนนั้น 48 ชม. ดีเวลอปเปอร์-แบงก์สรุปให้จบ แบงก์ชาติถือว่าช่วยแล้ว แต่เรางอแง ควรมองว่าอย่าเห็นแก่ตัว ควรเห็นแก่ระบบเศรษฐกิจที่จะมั่นคง ยั่งยืน เราควรให้ความสำคัญ ทำไมเรายังไปเที่ยวต่างประเทศได้ ต้องขอบคุณแบงก์ชาติ เงินคงคลังยังอยู่ ไม่ได้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ผมว่าเขาเป็นหน่วยงานเดียวที่ทำให้ประเทศไทยนิ่งได้ ถ้าเขามาตามดีเวลอปเปอร์ อาจเละนะครับ ต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า จริง ๆ ดีกับเศรษฐกิจเรานะ ไม่ใช่สิ่งที่แปลก ลองมองเป็นนักลงทุนแล้วจะเข้าใจ

ถ้าสปอยล์กันตลอดเวลาก็มองแล้วว่า มันอาจจะเจ๊ง ควรมองให้ยาว ๆ ดีกว่า ประเทศอื่นสูงกว่านี้อีก เราต้องปรับตัวเอง แต่ช่วงแรกอาจเหนื่อย อาจงอแงหน่อย ก็ทน เดี๋ยวก็คุ้นเอง มองให้ดี มันก็ดี

แผนลงทุนปีนี้

ปีนี้ปรับลดลงทุนลง 10% ลดงบฯซื้อที่ดิน 2,000 ล้าน จากปีที่แล้ว 10,000 ล้านบาท มีเปิดตัว 10 โครงการใหม่ มูลค่า 38,000 ล้านบาท เป็นคอนโดฯใกล้รถไฟฟ้า 8 โครงการ แนวราบ 2 โครงการ ทำเลแจ้งวัฒนะและประชาอุทิศ

Ideo Q พหลโยธิน-สะพานควาย เป็นไฮไลต์ใหญ่สุดในปีนี้ มูลค่า 10,000 ล้านบาท 39 ชั้น 3 อาคาร 1,119 ยูนิต ติดบีทีเอสสะพานควาย 189,000 บาท/ตร.ม. เปิดตัวเดือน พ.ค.นี้

เราเพิ่มพอร์ตธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (recurring income) โดยร่วมกับ The Ascott Limited ระดับโลก พัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 5 โครงการ 12,000 บาท และร่วมทุนกับ “มิตซุย” ทำธุรกิจโรงแรมระดับ 3-4 ดาวครั้งแรก กำลังหาที่ดินอยู่ ถึงการเมืองไม่นิ่ง เราก็เดินหน้า เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว ไซซ์ลงทุนไม่ใหญ่มาก เป็นบิสซิเนสโฮเทล

นโยบายปรับขึ้นค่าแรง 

เข้าใจว่าต้องบาลานซ์บางอย่าง ทั้งซัพพลาย-ดีมานด์ต้องตอบโจทย์ บางทีฝั่งการเมืองหาเสียงเกินไปหรือเปล่า แต่ส่วนตัวไม่มีข้อมูลจะติ จะชม แต่บางพรรคสุดโต่ง อย่างนี้ก็น่ากลัว ต้องเข้าใจภาคอุตสาหกรรมด้วย ในระยะยาวอาจไม่ดี ต้องอดทน มีวินัยในตัวเอง เฉพาะหน้าอย่างเดียวไม่ได้

ค่ายอนันดาฯแรงงานเราเรียกเขาว่า “นักสร้าง” เราให้เกิน 300 บาทอยู่แล้ว ยิ่งเป็นแรงงานคุณภาพ เราให้เกิน 400 อยู่แล้ว เราเตือนผู้รับเหมาตลอดว่า อย่าว่าคนเหล่านี้ จะหาเมื่อไหร่ก็ได้ จริงเหรอ คุณภาพคนฉาบหรือปูกระเบื้อง หาได้ง่าย ๆ เหรอ บางคนเป็นนักฉาบ นักปูกระเบื้อง มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่เห็นใครตามสี่แยกก็ดึงเขาขึ้นรถมาเลย เดี๋ยวนี้ไปเอาคนที่ไม่ได้ฝึกมา งานจะช้า ไม่เนี้ยบ

สวัสดิการแคมป์คนงานก็ควรทำให้ดี ๆ ถ้าเป็นต่างด้าวต้องมีใบรับรองให้เรียบร้อย เขามีลูก ภรรยา ก็มีการสอนภาษาไทยให้ อาหารการกิน เรามีล่าม หัวหน้าชุมชนคอยดูแลเรื่องนี้ให้เขาแฮปปี้ เราให้คนที่คุณค่า เราดูแลคนงานดีอยู่แล้ว เพราะพวกเขาเป็นทรัพยากรที่สำคัญ

ส่วนดิสรัปชั่น อยากให้มองว่า เทคโนโลยี AI จะมาช่วยเรานะ แต่ช่วยขนาดไหน ต้องจินตนาการ ไม่ยากครับ ถ้าทำโฆษณาอยู่แล้ว จริง ๆ เครื่องมือมีแล้ว แต่เราฟังหรือเปล่า รู้จริงรึเปล่า

มองการเมืองและนักการเมือง

ผมคิดเสมอว่า “นักการเมือง” ทุกคนรักชาติ อยากเห็นประเทศไทยเจริญ อยากให้เศรษฐกิจดี คนไทยอยู่ดี กินดี ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น ผมไม่ขอวิจารณ์ อยากให้ทุกฝ่ายยึดมั่นใน “ส่วนรวม” เราเป็นนักธุรกิจก็ต้องพัฒนาตัวเอง ขับเคลื่อนองค์กรให้อยู่รอด เสียภาษีให้ถูกต้อง มั่นใจการเมืองคงได้ข้อยุติเร็ว ๆ นี้

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!