“พลัสฯ” เชียร์อสังหาฯลักเซอรี่ผลตอบแทนยังจ๊าบ 7-10%

“พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ชี้ มาตรการ LTV-loan to value ไร้ผลกระทบตลาดอสังหาฯ ลักเซอรี่ โดยเฉพาะผู้ซื้อลงทุน-ผู้ซื้อต่างชาติ เผยมูลค่าตลาดโตเฉลี่ยปีละ 7% ผลตอบแทนเฉลี่ย 7-10% ขายเร็วกว่าโครงการทั่วไปอีกต่างหาก

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2562 ตลาดอสังหาลักเซอรี่จะกลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง เพราะตอบโจทย์ทั้งกลุ่มซื้ออยู่อาศัยจริง กลุ่มนักลงทุน กลุ่มชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ มาตรการ LTV-loan to value ของแบงก์ชาติในการบังคับเพิ่มเงินดาวน์ คาดว่าไม่ส่งผลกระทบกำลังซื้อระดับลักเซอรี่ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เนื่องจาก LTV เพิ่มเงินดาวน์เป็น 20% สินเชื่อไม่เกิน 80% ใกล้เคียงกับหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร และนิวซีแลนด์ อย่างไรก็ตาม หลายประเทศมีมาตรการวางเงินดาวน์สูงกว่าไทย เช่น สิงคโปร์อยู่ที่ 75% มาเลเซีย เกาหลีใต้ 70% ฮ่องกง 65% มาตรการของไทยจึงไม่มีผลกระทบต่อนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว”

จากการสำรวจปี 2562 อสังหาริมทรัพย์เจาะกลุ่มผู้ซื้อระดับลักเซอรี่จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น โดยช่วง 7 ปี (2555-2561) มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 7% แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวา เศรษฐกิจโลกก็ยังมีความเสี่ยงต่อเนื่อง

ในแง่สินค้าพบว่า คอนโดมิเนียมมียอดการตอบรับเฉลี่ย 70% อัตราการดูดซับอยู่ที่ 15 ยูนิต/โครงการ/เดือน เทียบกับโครงการตลาดทั่วไปมีอัตราดูดซับ 22 ยูนิต/โครงการ/เดือน ซึ่งโครงการลักเซอรี่มีอัตราดูดซับน้อยกว่าเป็นไปตามสัดส่วนที่มีซัพพลายน้อยกว่า

ในด้านสัดส่วนโครงการที่สามารถขายได้เร็วกว่า 1 ปี พบว่า โครงการลักเซอรี่มีสัดส่วน 31% ที่สามารถขายหมดได้เร็วกว่า 1 ปี เทียบกับโครงการทั่วไป 417 โครงการมีสัดส่วนขายได้หมด 20% รวมทั้งปัจจัยผลตอบแทนการลงทุน พบว่า ตลาดลักเซอรี่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงเฉลี่ย 7-10% โดยเฉพาะโซนสุขุมวิทชั้นใน-ทองหล่อ มีอัตราผลตอบแทนลงทุน 9.5%

ความสำเร็จโครงการลักเซอรี่มาจากปัจจัยหลัก 3 ด้าน 1. Prime Location ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง 2. Smart Partnership ร่วมมือกับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ 3.Exclusive Service การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต