“อาคม” เปิดสถิติวันแรกเดินทางสงกรานต์ ”นครศรีธรรมราช”อุบัติเหตุสูงสุด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ในวันที่ 12 เมษายน 2562 เวลา 09.30 น. พร้อมทั้งแถลงข่าวสรุปผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ประจำวันที่ 11 เมษายน 2562 ณ ห้องประชุมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

สำหรับสรุปผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ประจำวันที่ 11 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ดังนี้

1. เกิดอุบัติเหตุ 468 ครั้ง โดย จ.นครศรีธรรมราช เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 20 ครั้ง รองลงมา คือ จ.เชียงใหม่ และลำปาง 19 ครั้ง

2. ผู้เสียชีวิต 46 ราย โดย จ.อุดรธานี มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 4 ราย รองลงมา คือ จ.นครศรีธรรมราช 3 ราย

3. ผู้บาดเจ็บ 482 คน โดย จ.นครราชสีมา มีผู้บาดเจ็บสูงสุด 23 คน รองลงมา คือ จ.ลำปาง 20 คน

4. สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ คือ ดื่มแล้วขับ 34.62% รองลงมา คือ ขับรถเร็วเกินกำหนด 26.92% และตัดหน้ากระชั้นชิด 19.87%

5. พฤติกรรมเสี่ยง คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 50% รองลงมา คือ เมาสุรา 23.67% และขับรถเร็ว 16.67%

6. ประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคล 78.47% รถปิคอัพ 5.59% และรถจักรยานยนต์สาธารณะ 4.97%

7. ถนนที่เกิดอุบัติเหตุ คือ ถนนของกรมทางหลวง 42.37% ถนน อบต./หมู่บ้าน 35.04% ถนนในเมือง (เทศบาล) 10.90% และถนนทางหลวงชนบท 8.97%

8. ลักษณะจุดเกิดเหตุ คือ ทางตรง 65.38% ทางโค้ง 18.59% และทางแยก 13.89%

9. ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ คือ ในช่วงเวลา16.01 – 20.00 น. สูงสุด 29.06% รองลงมา เวลา 12.01 – 16.00 น. 18.38%

10. อายุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต อายุ 50 ปีขึ้นไป 25.19% และอายุ 40 – 49 ปี 16.29%

ทั้งนี้ นายอาคมได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยพิจารณาเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว มุ่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน

พร้อมทั้งดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาวเพื่อป้องกันการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท เน้นการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติด รวมถึงกำชับจุดตรวจ ด่านตรวจบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจจับและปรับในอัตราสูงสุด กรณีขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ