โรงแรมหรูผงาด 9 โปรเจ็กต์ใหม่ผุดในเมืองยันริมน้ำ

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยปี 2562 จำนวน 40 ล้านคน เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมระดับกลาง-บนมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

9 โปรเจ็กต์บูมแสนล้าน

จากการสำรวจล่าสุดในปี 2561 กรุงเทพมหานครมีโรงแรมระดับ luxury ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ 3 แห่ง รวม 747 ห้องพัก มูลค่าลงทุน 14,500 ล้านบาท กระจายอยู่ในโซนสุขุมวิท สีลม สาทร และรอบสวนลุมพินี ส่งผลให้มีซัพพลายสะสม 11,436 ห้อง อัตราการเข้าพัก (occupency rate) อยู่ที่ 72% ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ค่าเช่าเฉลี่ย 5,870 บาท/ห้อง/คืน เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2560

ในขณะที่มีอีก 9 โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง มีกำหนดแล้วเสร็จปี 2562-2564 รวม 1,851 ห้องพัก มูลค่าลงทุนรวม 100,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ และอีก 689 ยูนิต มีกำหนดแล้วเสร็จในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ โครงการ Rosewood Bangkok บนถนนเพลินจิต ความสูง 32 ชั้น จำนวน 146 ห้องพัก โดยบริษัท เรนด์ จำกัด ของนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท

โครงการ The Capella Bangkok และ Four Seasons Hotel Bangkok สไตล์รีสอร์ต 312 ห้อง พื้นที่ 22 ไร่ติดแม่น้ำ หน้ากว้าง 200 เมตร ของบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการ 32,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2556-2558 ความนิยมลงทุนโรงแรมระดับลักเซอรี่ชะลอตัวลงไป และกลับมาบูมอีกครั้งตั้งแต่ปี 2559 และขยายตัวมากขึ้นในปี 2561 โดยแนวโน้มปี 2562-2564 โรงแรมระดับ upscale (4 ดาว) มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับลักเซอรี่อยู่ที่ 17,598 ห้อง เหตุผลเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังนิยมเลือกราคาต่ำกว่าระดับลักเซอรี่ ในด้านทำเลที่ตั้ง พบว่าอยู่ในพื้นที่รอบสวนลุมพินีมากสุด สัดส่วน 31% รองลงมาสุขุมวิท 27% ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 24% และสีลม-สาทร 18%

นอกจากนี้ โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่บางโครงการมีการผสมผสานรูปแบบบางส่วนเป็นโรงแรมระดับ upscale หรือ 4 ดาว กับระดับลักเซอรี่ หรือ 5-6 ดาว โดยมีสัดส่วน 71% ตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่รอบสวนลุมพินีเป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการกระจุกตัว จนทำให้มีห้องพักรวมกัน 4,066 ห้อง

เทรนด์ปีนี้ค่าห้องเพิ่ม 3-5%

นายภัทรชัย กล่าวถึงดีมานด์ตลาดโรงแรมในปีนี้ว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปี 2561 จำนวน 38.27 ล้านคน คาดการณ์ปีนี้ 40 ล้านคน ในด้านรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2561 อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท เติบโต 9.63% จากปี 2560 จุดโฟกัสนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนมากสุดในปี 2561 จำนวน 10.53 ล้านคน เพิ่ม 7.44% จากปี 2560 อยู่ที่ 9.8 ล้านคน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับการตลาดใหม่ เน้นนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มพรีเมี่ยมเป็นหลัก เช่น กลุ่มสปอร์ตทัวริซึ่ม โดยเฉพาะกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ วิ่งมาราธอน, กลุ่มเฮลท์ & เวลเนส เพราะบริการทางการแพทย์ของไทยเทียบเท่ามาตรฐานโลก และกลุ่มเวดดิ้ง & ฮันนีมูน ซึ่งนิยมเดินทางเป็นกลุ่ม 40-80 คน จุดเด่นคือมีกำลังซื้อสูง

“ปีนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยน่าจะสูงถึง 40 ล้านคน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากปัจจัยบวกเรื่องความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น การเปิดเส้นทางการบินในกลุ่มประเทศอาเซียนมาไทยเพิ่มขึ้น และความสามารถในการบริหารจัดการของสายการบินที่ส่งผลให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ สถิติอัตราการเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมลักเซอรี่ ณ ครึ่งปีหลัง 2561 อยู่ที่ 72% ลดลง 4% เทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2561 จากอัตราเข้าพักเฉลี่ยในช่วงครึ่งแรกปี พ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตาม โรงแรมลักเซอรี่มีแรงกดดันจากการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหม่ที่เล็งเห็นโอกาสการลงทุน โดยประเมินว่าค่าห้องพักเฉลี่ยรายวันในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 อยู่ที่ 5,870 บาท/ห้อง/คืน เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2560 เนื่องจากโรงแรมลักเซอรี่ปรับเพิ่มค่าห้องพักแบบช้า ๆ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลังจากการเมืองมีเสถียรภาพ แนวโน้มปีนี้คาดว่าค่าห้องพักอาจปรับเพิ่ม 3-5% ขึ้นกับปัจจัยตัวแปร คือ ตลาดการท่องเที่ยว อัตราแลกเปลี่ยน และภาวะเศรษฐกิจในประเทศ