
โลว์คอสต์แอร์ไลน์ทุบธุรกิจรถทัวร์เดี้ยง บขส.เผยยอดผู้ใช้บริการลดฮวบฉุดรายได้ทั้ง บขส.และบริษัทรถร่วมเจอปัญหาขาดทุน รถร่วมรายย่อยทยอยปิดตัวกว่า 10 ราย ล่าสุด “สยามเฟิสท์ฯ” เจ้าพ่อรถทัวร์สายเหนือ ยกธงขาวปิดตำนาน 41 ปี ประกาศขายรถ 23 คันมูลค่า 40 ล้าน พร้อมหาผู้สวมสิทธิ์สัมปทาน ปรับตัวหันบุกโลจิสติกส์เต็มตัวแข่ง “เคอรี่ฯ”
จากที่มีรายงานข่าวว่าบริษัท สยามเฟิสท์ทัวร์ จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางปรับอากาศร่วม บขส.ที่ให้บริการมา 41 ปี ในพื้นที่ภาคเหนือใน 6 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-เชียงราย (สายเก่า), กรุงเทพฯ-ลำปาง, กรุงเทพฯ-เชียงราย (สายใหม่), กรุงเทพฯ-เชียงของ และกรุงเทพฯ-แม่สาย จะยุติการดำเนินการธุรกิจรถทัวร์ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 นี้
นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารใช้บริการรถ บขส.และรถร่วม บขส.ลดลงมาก เนื่องจากประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น หลังจากมีสายการบินต้นทุนต่ำหรือโลว์คอสต์เปิดบริการ รวมถึงการขยายสนามบินในหัวเมืองรองมากขึ้น ประกอบกับการขยายถนนให้เกิดความสะดวกมากขึ้น ทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางไปใช้บริการทางอากาศ และขับรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น
“ไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้พบว่าผู้โดยสารลด 4-5% โดยเฉพาะภาคเหนือที่ปริมาณผู้โดยสารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะคนหันไปนั่งโลว์คอสต์มากขึ้น ภาคอีสานคนหายไปเฉลี่ย 10,000 คนต่อเดือน อนาคตเมื่อมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชและรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราชเสร็จ จะเป็นคู่แข่งธุรกิจรถทัวร์ ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ยังนิ่ง”
ใคร ๆ ก็บินได้ทุบธุรกิจรถทัวร์
นายจิรศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องต้นทุนและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่สอดรับกับอัตราค่าโดยสาร และการขอปรับค่าโดยสารแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ล่าสุดมีมติให้รถ บขส.และรถร่วม บขส.ปรับขึ้นค่าโดยสารเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ถึงเพดานที่กำหนด
ก่อนปี 2557 บขส.ยังมีกำไรปีละประมาณ 400-500 ล้านบาท แต่หลังจากที่ธุรกิจโลว์คอสต์แอร์ไลน์มีการส่งเสริมการขายอย่างหนัก ที่บอกว่า “ใคร ๆ ก็บินได้” ก็ทำให้ผลประกอบการของ บขส.ดิ่งฮวบ ปี 2558 กำไรเหลือ 200 ล้านบาท และปี 2559 ขาดทุน 115 ล้านบาท บริษัทก็พยายามปรับตัวลดต้นทุนปี 2560 มีกำไร 18 ล้านบาท แต่ปี 2561 ก็ขาดทุน อีกส่วนหนึ่งต้องรับภาระค่าเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุของรถร่วมต่าง ๆ
ทั้ง บขส.และรถร่วมที่ได้รับผลกระทบจะต้องปรับตัวรับมือ โดยในส่วนของ บขส.มี 2 เรื่องที่จะต้องดำเนินการ คือ 1.บริหารจัดสถานีขนส่งหมอชิตให้เป็นระบบ ไม่มีการขายตั๋วผี และดูแลด้านการปลอดภัย และ 2.มีแผนลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เซตระบบการจองตั๋วเหมือนสายการบิน จะเก็บข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสารว่าใช้บริการเส้นทางไหนบ้าง คาดว่าปลายปี 2563 จะแล้วเสร็จ” นายจิรศักดิ์กล่าว
ปิดตำนาน 41 ปีสยามเฟิสท์ทัวร์
นายจิรศักดิ์กล่าวอีกว่า จากจำนวนผู้โดยสารลดลง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถร่วม บขส. ซึ่งมีอยู่ 1,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นรายย่อยที่มีรถให้บริการ 2-3 คัน จำนวน 700-800 ราย ซึ่งปัจจุบันมีรายย่อยขอยุติการเดินรถแล้ว 2% หรือกว่า 10 ราย เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน ล่าสุดบริษัท สยามเฟิสท์ทัวร์ จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางปรับอากาศร่วม บขส.ที่ให้บริการ 41 ปีในพื้นที่ภาคเหนือ ได้หารือจะยุติให้บริการรถทัวร์ทั้ง 6 เส้นทาง ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ และจะหันไปเน้นธุรกิจโลจิสติกส์ขนส่งที่มีผลตอบแทนมากกว่าธุรกิจรถทัวร์ โดยมีแผนจะขายรถโดยสารปรับอากาศที่มีอยู่ 23 คัน ในวงเงิน 40 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา สยามเฟิสท์ทัวร์ได้เข้ามาปรึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่า ใน 6 เส้นทางที่สยามเฟิสท์ฯเปิดให้บริการมีผู้ประกอบการรายอื่นเดินรถอยู่หรือไม่ เพราะตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก การยกเลิกการเดินรถจะต้องมีรถโดยสารไว้บริการประชาชนด้วย ถ้าเขาอยากจะบอกเลิกโดยเร็ว วิธีการจะต้องหาผู้ประกอบการรายอื่นมาสวมสิทธิ์สัมปทานการเดินรถต่อไป”
หันรุกโลจิสติกส์แข่งเคอรี่ฯ
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท สยามเฟิสท์ทัวร์ จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทให้บริการเดินรถโดยสารระหว่างกรุงเทพฯและจังหวัดภาคเหนือมา 41 ปี สาเหตุที่จะเลิกธุรกิจรถทัวร์ เนื่องจากรายได้ไม่ค่อยดี หลังมีสายการบินโลว์คอสต์เกิดขึ้นมาก ประกอบการธุรกิจรถโดยสารมีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งในภาคเหนือมีหลายรายที่ให้บริการในเส้นทางที่บริษัทเปิดเดินรถอยู่
“เราไม่ใช่ผู้ประกอบการเดินรถเจ้าใหญ่ในภาคเหนือ แต่เป็นบริษัทเก่าแก่ที่ทำธุรกิจมานาน ตอนนี้เหมือนธุรกิจขาลง จากภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมการเดินทางที่เปลี่ยนไปหันไปใช้บริการโลว์คอสต์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจรถโดยสารประจำทางซบเซามา 3-4 ปีแล้ว จึงคิดว่าจะมุ่งไปทำธุรกิจที่ตลาดกำลังเติบโต และมีผลกำไรมากกว่าแทน”
ทั้งนี้ สยามเฟิสท์ทัวร์ มีบริษัทในเครือบริษัท สยามเฟิสท์เอ็กซเพรสคาร์โก้ จำกัด ที่ทำธุรกิจการขนส่งพัสดุด่วนอยู่แล้ว เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯและจังหวัดในภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย พะเยา ตาก แพร่ พิษณุโลก เป็นต้น โดยมีศูนย์กระจายสินค้าอยู่ที่กรุงเทพฯ คือ ประชานิเวศน์ 1 หัวลำโพง อาร์ซีเอ และเทพารักษ์
“ธุรกิจขนส่งเราทำมานานแล้ว มีการตอบรับค่อนข้างดี ปัจจุบันตลาดกำลังเติบโต จึงหันมามุ่งธุรกิจนี้มากขึ้น แม้ว่าตลาดจะมีคู่แข่งหลายราย เช่น เคอรี่ฯ แต่เรามีลูกค้าเก่าอยู่ในมือพอสมควร เน้นทำตลาดพื้นที่ภาคเหนือและเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ เช่น ของชิ้นใหญ่ ตู้เย็น ที่นอน และของดูแลยาก สินค้าแช่แข็ง แช่เย็น” แหล่งข่าวกล่าว