บอร์ดสั่งกทพ.เจรจาข้อพิพาททางด่วนให้จบใน2สัปดาห์ ขอปรับลดมูลหนี้-ระยะเวลาสัมปทาน

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2562 ได้รับรายงานความก้าวหน้าแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาททางแข่งขันของทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด วงเงิน 4,200 ล้านบาท ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้กทพ.จ่ายชดเชยให้บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด(NECL) บริษัทลูกของบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) ผู้รับสัมปทานโครงการ

โดยมติบอร์ดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ได้เห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาตามที่กทพ.เสนอจะเจรจากับBEM ถึงภาพรวมการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ยุติข้อพิพาททั้งหมดคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1.37 แสนล้านบาท การพิจารณาสัญญาทางด่วนขั้นที่2 จะสิ้นสุดวันที่ 18 ก.พ.2563

ซึ่งจะขยาย อายุสัญญาที่ BEM รับสัมปทานทุกโครงข่ายทั้งทางด่วนขั้นที่2 รวมส่วนD ช่วงพระราม9-ศรีนครินทร์ และทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด จะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 1 พ.ย.2569 ออกไปเป็นระยะเวลา 37 ปี ให้สิ้นสุดสัญญาพร้อมกันในปี 2600 นับจากปี 2563 ปรับค่าผ่านทางทุกๆ10ปีในอัตรา10บาท และแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้กทพ.60% ตลอดอายุสัญญา และBEMจะลงทุน 31,500 ล้านบาท สร้างทางด่วน 2 ชั้น ช่วงประชาชื่น-อโศก แก้ปัญหาการจราจร

“ที่ผ่านมามีการคัดค้านจากพนักงานการทางพิเศษและได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาแนวทางเพิ่ม มีการตั้งสมมุติฐานและประเด็นเงื่อนไขใหม่ ที่มีการวิเคราะห์เข้ามาเพิ่ม 4-5 โมเดล ก็ให้คณะอนุกรรมการมีนายปกรณ์ อาภาพันธุ์ เป็นประธานไปเจรจากับเอกชนเพิ่มเติมให้ได้แนวทางที่ดีที่สุดใน 2 สัปดาห์นี้ “

ทั้งนี้การขยายสัมปทาน 37 ปีก็ยังคงเป็น 1 ในโมเดลที่พิจารณาด้วย แต่ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องรายงานกระทรวงคมนาคมไปตามข้อเท็จจริง เพราะตอนนี้ดอกเบี้ยเดินทุกวันต้องให้จบโดยเร็ว ไม่อยากให้คดีทางด่วน เป็นโฮปเวลล์2 เมื่อมีโอกาสเจรจาแล้วต้องเจรจา ส่วนการเจรจาจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เป็นอีกเรื่อง ขึ้นกับความสามารถในการเจรจาของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งรัฐบาลนี้มีมติเรื่องนี้ 2 ครั้งแล้ว ดังนั้น ควรสรุปให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้และก่อนสัญญาทางด่วนขั้นที่2 จะสิ้นสุดสัญญาโครงการ

นายสุรงค์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บอร์ดยังได้รับทราบการแต่งตั้ง นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำการแทนผู้ว่าฯ กทพ.

รายงานข่าวแจ้งว่า แนวทางเจรจากับเอกชนตามที่บอร์ดให้เจาจาเพิ่ม มีหลายแนวทาง เช่น ลดมูลหนี้ของข้อพิพาท ลดออปชั่นการลงทุนใหม่ เพื่อลดระยะเวลาสัมปทานให้สั้นลงจากเดิม 37 ปี ส่วนค่าผ่านทางยังคงเดิมคือปรับ 10 บาท ทุก 10 ปี ขณะที่ส่วนแบ่งรายได้กทพ.ยังคงได้60% ทั้งหมดยังไม่สรุป แต่จะพยายามให้จบโดยเร็ว