เอสซีจีทุ่ม 2.1 หมื่นล้านเทกโอเวอร์ “Fajar” ผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของอินโดนีเซีย

เอสซีจี ลงทุนกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน PT. Fajar Surya Wisesa Tbk. หนึ่งในผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย รองรับตลาด 270 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตของตลาดบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่อจิ๊กซอว์การเติบโตธุรกิจแพคเกจจิ้งเอสซีจีในอนาคต

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ธุรกิจแพคเกจจิ้ง เอสซีจี ได้เข้าลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 55% ใน PT. Fajar Surya Wisesa Tbk. (หรือ “Fajar”) ผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จากผู้ถือหุ้นปัจจุบัน คิดเป็นมูลค่า 9.6 ล้านล้านรูเปีย หรือประมาณ 21,150 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 665 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าธุรกรรมแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/62 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากภายใน

นอกจากนี้ เพื่อรองรับโอกาสในการขยายธุรกิจแพคเกจจิ้งในอนาคต เอสซีจีอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มทุนของธุรกิจแพคเกจจิ้ง คาดว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2562

นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อไปว่า การเข้าถือหุ้นข้างมากใน Fajar จะช่วยขยายการเติบโตของเอสซีจีในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งมีโอกาสเติบโตอย่างมากในอนาคต พิจารณาจากประชากร 270 ล้านคน และอัตราการใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ต่อคนของอินโดนีเซีสูงกว่าไทยเกือบ 3 เท่าตัว

ทั้งนี้ ธุรกิจแพคเกจจิ้ง เอสซีจี มีโรงงานตั้งอยู่ในเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีโมเดลธุรกิจเป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (Total Packaging Solutions Provider) รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าให้สินค้า บริการ และกระบวนการผลิต ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและการใช้งานของผู้บริโภค ตลอดจนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน-Circular Economy ตามแนวทางเอสซีจี หรือ SCG Circular Way

ธุรกิจแพคเกจจิ้ง เอสซีจี ในปี 2561 มีรายได้การขาย 87,255 ล้านบาท มีกำไรสำหรับปี 6,319 ล้านบาท ขณะที่ Fajar ในปี 2561 มียอดขายกระดาษบรรจุภัณฑ์รวม 1.38 ล้านตัน มูลค่า 9.94 ล้านล้านรูเปีย ประมาณ 21,900 ล้านบาท มีกำไรปีประมาณ 1.41 ล้านล้านรูเปีย ประมาณ 3,100 ล้านบาท