2 พันคอนโดเตรียมจ่ายเพิ่มภาษีเกณฑ์ใหม่

คอนโดฯเมืองกรุงจ๊าก คลังชงประกาศฐานราคาประเมินใหม่ 1 ก.ย.นี้ 2,000 โครงการเตรียมควักจ่ายภาษีตามเกณฑ์ใหม่

ดร.พรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อมาทดแทนกฎหมายบำรุงท้องที่และกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน ตามกำหนดเดิมคือภายในวันที่ 1 มกราคม 2561

ทั้งนี้ สถิติภาษีบำรุงท้องที่ จัดเก็บจากการใช้ที่ดินโดยอ้างอิงราคาประเมินปี 2521-2524 เป็นหลัก รายได้จัดเก็บทั่วประเทศปีละ 900 กว่าล้านบาท ส่วนภาษีโรงเรือนฯ ทั่วประเทศมีรายได้จัดเก็บปีละ 2.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) 1.2 หมื่นล้านบาท หรือรายได้ภาษีโรงเรือนใน กทม. คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ

ในขณะที่ กทม.มีงบประมาณตกปีละ 7 หมื่นล้านบาท (ดูตารางประกอบ) เป็นรายได้จัดเก็บเองจากภาษีโรงเรือนฯ 1.2 ล้านบาท ดังนั้น ในอนาคตเมื่อมีการบังคับใช้ภาษีที่ดินฯ คาดว่าจะทำให้ กทม.มีรายได้จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการลงทุนและพัฒนาเมืองต่อไป

นางวิลาวัลย์ วีระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับมอบหมายให้เตรียมความพร้อมในการจัดทำราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรายแปลง จำนวน 13.4 ล้านแปลงทั่วประเทศ รองรับนโยบายบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าผลักดันประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561 ล่าสุดมีความคืบหน้าจัดทำราคาประเมิน 70% เวลาที่เหลืออีก 4 เดือน คาดว่าสามารถทำได้ตามเป้า

สำหรับผู้ที่มีโฉนดที่ดิน มีข้อแนะนำให้ไปติดต่อกรมที่ดิน เพื่อเปลี่ยนโฉนดจากระบบศูนย์กำเนิด ซึ่งเป็นระบบเอกสารสิทธิเดิม มาเป็นระบบ UPM หรือระบบแผนที่แบบใหม่ ซึ่งเป็นระบบซีรีส์ โดยสามารถยื่นคำขอพร้อมจ่ายค่าธรรมเนียม 10 บาท ก็เปลี่ยนเข้าสู่เทคโนโลยีใหม่ได้แล้ว

โดยการคำนวณภาษีจากสิ่งปลูกสร้าง เดิมบัญชีอาคาร 69 แบบปรับใหม่เหลือ 31 แบบ เช่น ที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแถว (รวมบ้านแฝด) ตึกแถว มีเหลือเพียง 4 ประเภท เพื่อง่ายต่อการคิดภาษี

นางวิลาวัลย์กล่าวว่า ในจำนวนนี้สิ่งปลูกสร้างประเภทอาคารชุดถือเป็นทุนทรัพย์ที่สะท้อนราคาตลาดได้มากที่สุด เพราะสร้างเสร็จและจดทะเบียนแล้ว ทำให้มีข้อมูลชัดเจนเพราะสามารถดูได้จากราคาจะซื้อจะขาย ซึ่งคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯ มีประมาณ 2,000 โครงการ พบว่ามีสัดส่วน 80% ที่ยังไม่ได้ปรับราคาประเมินปัจจุบัน เท่ากับยังเป็นราคาเดิมอยู่

“คณะอนุกรรมการประเมินราคาเพิ่งปรับราคา 800 โครงการ และเตรียมประกาศราคาใหม่วันที่ 1 กันยายน 2560 จากเดิมไม่ได้มีการปรับราคาประเมินนับ 20 ปี อย่างไรก็ตาม ราคาใหม่ที่ปรับถือว่ามีเพียง 50% ของราคาซื้อขายจริง โดยอาคารชุดไม่มีการหักค่าลดหย่อน ไม่มีค่าเสื่อมเพราะไม่ต้องนำอาคารมาหักค่าเสื่อม เจ้าของห้องชุดมีภาระภาษีไม่แพงแต่อย่างใด” นางวิลาวัลย์กล่าว