เจ้าท่า “ฟื้นชายหาดพัทยา” ดึงดูดนักท่องเที่ยวคิวต่อไป “จอมเทียน” เสร็จปีหน้า 7 กม.

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานประชาสัมพันธ์ “ฟื้นชายหาดพัทยา คืนความสุขให้ประชาชน” ในวันที่ 8 มิถุนายน 2562 ณ ชายหาดพัทยากลาง จังหวัดชลบุรี

นายไพรินทร์กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศได้กําหนดให้การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเป็นประเด็นที่สําคัญของประเทศ และกําหนดให้การส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเป็นนโยบายที่สําคัญของชาติ เพราะภาคการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ประเทศถึงเกือบ 20 %ของ GDP

กระทรวงคมนาคม นอกจากมีภารกิจหน้าที่ในการพัฒนาโครงการพื้นฐาน กํากับดูแล และอํานวยความสะดวกความปลอดภัยในทุกโหมดการเดินทาง ยังให้ความสำคัญกับการบูรณาการยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลให้สอดรับกัน

ด้วยปัญหาต่าง ๆ ทําให้ชายหาดพัทยาซึ่งเดิมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในระดับโลกถูกกัดเซาะเสื่อมโทรม กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องร่วมกับสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สํารวจออกแบบแก้ไข ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง โดยให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมกับเมืองพัทยา ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดยมีรูปแบบการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมคือการเสริมทรายชายหาด (Beach Nourishment) ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับชายหาดท่องเที่ยวและเป็นที่ยอมรับในนานาอารยประเทศ นับเป็นชายหาดแห่งแรกของประเทศที่นําทรายมาเสริมชายหาดอย่างเต็มรูปแบบ

ซึ่งได้รับงบประมาณในปี 2558 ดําเนินการก่อสร้างเสริมทรายชายหาดจากพัทยาเหนือถึงพัทยาใต้ กว้าง 35 เมตร ยาว 2.8 กม. นําทรายมาจากใต้ท้องทะเลลึก และดําเนินการแล้วเสร็จ เมื่อต้นปี 2562

จากผลการศึกษาพบว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว มีความคุ้มค่าเงิน 1 บาทที่ลงทุนไปในการเสริมชายหาดพัทยา จะสร้างเม็ดเงินกลับคืนมาในระบบประมาณ 37 บาท โดยในช่วงต้นปี 2562 ชายหาดพัทยามีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งผลให้อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจะได้ต่อยอดโครงการในลักษณะเดียวกัน โดยดำเนินการของบประมาณปี 2563 เพื่อก่อสร้างเสริมทรายชายหาด จอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 ความยาวชายหาดประมาณ 7 กม. และจะประยุกต์แนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยการเสริมทราย ไปยังพื้นที่ชายหาดทรายที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสําคัญของประเทศที่ประสบปัญหา การกัดเซาะจุดอื่น ๆ อาทิ ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ชายหาดชะอํา จังหวัดเพชรบุรี ชายหาดเขาหลัก จังหวัดพังงา เป็นต้น