ครม.ลดงบอุดหนุน “รถเมล์-รถไฟ” เหลือ 5,014 ล้านรับทราบแผนสร้าง “สถานีศิริราช” จุดเชื่อม2รถไฟฟ้า

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 ก.ค.มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงินรวม 5,014.335 ล้านบาท

แบ่งเป็นขสมก. 1,775.633 ล้านบาท และ ร.ฟ.ท. 3,238.682 ล้านบาทตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะเมื่อ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยปรับลดวงเงินที่ทั้ง 2 หน่วยงานเสนอมาเดิม ขสมก.เสนอมา 4,976.838 ล้านบาท และร.ฟ.ท.เสนอ 7,076.112ล้านบาทตามลำดับ

ที่ไม่ให้ตามวงเงินที่เสนอมานั้น เนื่องจากมีวงเงินบางประเภทไม่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ เช่น ขสมก.เสนอวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะสำหรับรถโดยสารปรับอากาศ 1,946.926 ล้านบาท แต่คณะกรรมการฯไม่เห็นชอบในการเสนอวงเงินดังลก่าวเพราะไม่มีหลักฐานที่อ้างอิงได้ว่า ขสมก. ถูกควบคุมราคา หรือ ร.ฟ.ท.เสนอรายจ่ายบำเหน็จบำนาญ จำนวน 746.841ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการฯก็ไม่เห็นชอบ เพราะเป็นสวัสดิการสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปลดเกษียณแล้ว เป็นต้น

“กระทรวงการคลังยังมอบหมายให้ ขสมก. และ ร.ฟ.ท.จัดทำต้นทุนมาตรฐาน เพื่อใช้กำกับอัตราค่าโดยสารและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ รวมถึงนำมาประกอบการจัดสรรเงินอุดหนุนบริการสาธารณะในปีต่อไป”

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติรับทราบการออกแบบสถานีร่วมโรงพยาบาลศิริราชของโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช ของร.ฟ.ท. และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – บางขุนนนท์ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

เพื่อให้ทั้ง 2 โครงการมาเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ขนาด 15 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งทางโรงพยาบาลศิริราชจะรับภาระการก่อสร้างอาคารทั้งหมด

รูปแบบการก่อสร้างคร่าวๆ ส่วนของสายสีส้มจะอยู่ใต้ดิน ขึ้นมาระดับดินจะเป็นรถไฟชั้น 1-2 จะเป็นส่วนของรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นโถงผู้โดยสารลักษณะเป็นคองคอร์ด มีสกายวอล์กเชื่อมกับอาคารต่างๆภายในโรงพยาบาล

นอกจากนั้นจะเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาล ประกอบด้วย พื้นที่ตรวจรักษา 16,356 ตารางเมตร และห้องพักผู้ป่วย 220 ห้อง คาดว่า โรงพยาบาลจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565ส่วนสายสีแดงมีกำหนดการแล้วเสร็จในปี 2566 และสายสีส้ม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569

เนื่องจากมีโครงสร้างบางส่วนต้องลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับโครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอครม.ต่อไป เนื่องจากรถไฟฟ้าสายนี้อยู่ในกระบวนการ PPP กับเอกชน

นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงท่าเรือใหม่ บริเวณท่าเรือรถไฟและท่าเรือศิริราช เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางและจะออกแบบให้ใช้ได้ทุกคน (Universal Design)
อีกทั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้การบ้านไปสำรวจเพิ่มเติมว่ามีโรงพยาบาลใดที่เหมาะสมกับการใช้รูปแบบการเชื่อมต่อการเดินทางแบบนี้หรือไม่ด้วย